คืออิสรภาพที่แท้จริง


 

คุณใช้เวลาทั้งชีวิตในการพยายาม 
เป็น 'ใครสักคน' ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แต่ตอนนี้ 
คุณกำลังค้นพบว่าแท้จริงแล้วคุณไม่ใช่ใครเลย 
นี่เป็นการค้นพบที่สำคัญและลึกซึ้งที่สุด
ที่มนุษย์สามารถทำได้ และในการค้นพบครั้งนี้
คืออิสรภาพที่แท้จริง ความสุขที่แท้จริง 
และความสงบที่แท้จริง

You spend your whole life trying to be the best ‘someone’ you can be, 
but now you are discovering that you are actually no one. 
This is the most significant and profound discovery a humane being can make, 
and in this discovery is true freedom, true joy and true peace.

ท่าน Mooji

Image by Akinz from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

เขาไม่ให้อาหารมัน


แม้คนที่มองโลกในแง่บวกที่สุด
ก็ยังมีความคิดลบ ความลับอยู่ที่
เขาไม่ให้อาหารมัน

Even the most positive people have negative thoughts, 
the secret is not to feed them.

Unknown

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

เสรีภาพที่แท้จริง


เสรีภาพที่แท้จริง คือเสรีภาพจากความอยาก
ที่จะมีความรู้สึกดีๆ ตลอดเวลา

Real freedom is the freedom from the demand to feel good all the time.

Adyashanti

ภาพจาก Sadia ใน Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

เมื่อนั้นขณะนั้นแหละใจเป็นพรเป็นมงคล


เมื่อใดที่รู้สึกตัว
รู้เท่าทัน บาป อกุศล ทั้งมวล
จน โลภะ โทสะ โมหะ
ตั้งอยู่ในใจไม่ได้
เมื่อนั้นขณะนั้นแหละใจเป็นพรเป็นมงคล
ถ้าทำได้ตลอดปีใจก็เป็นพรเป็นมงคลตลอดปี
ถ้าปล่อยให้โลภะ โทสะ โมหะ ครองใจ
ต่อให้สวดมนต์ข้ามปีมา ก็ยาก
ที่ปีนั้น จะได้รับพรอันเป็นมงคลจริง.....
แต่ถ้าเมื่อสวดมนต์มาแล้วจิตใจมีความสงบเย็น
แล้วต่อยอดจากตรงนั้นโดยการภาวนา
รู้เท่าทันอกุศลในใจ นั่นก็ถือว่าได้ผลอันควร
จากการสวดมนต์ข้ามปี ไปตลอดทั้งปีทีเดียว
พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

พ้นจากอารมณ์ ทั้งปวง


ตื่นจากสุข ตื่นจากทุกข์
พ้นจากอารมณ์ ทั้งปวง 
เหนือมัน ไม่ใช่ไม่มี ตราบใดยังมีกาย 
พ้นก็คือ มันก็มีอยู่ แต่ทำร้ายเราไม่ได้
เพราะตัวความรู้สึกนั้นตัวมันเอง
ก็อยู่ไม่ได้นานมีแค่ขณะเดียว 
ถ้าเราไม่หลงเอามาเป็นเราของเรา 
สิ่งนั้นก็ย่อมดับ หรือ หายไป  
ไม่มีวิธีใดๆ ถ้าหลงทำ หลงหาวิธี 
แล้วก็ติดแค่ความคิด

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

Image by darksouls1 from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

การมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่นเป็นกฎธรรมชาติ


แม่น้ำไม่ดื่มน้ำของตัวเอง 
ต้นไม้ไม่กินผลของมันเอง 
พระอาทิตย์ไม่ส่องแสงให้ตัวเอง 
และดอกไม้ก็ไม่ส่งกลิ่นหอมให้ตัวเอง 
การมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่นเป็นกฎธรรมชาติ 
เราทุกคนเกิดมาเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 
ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม 
ชีวิตจะดีเมื่อคุณมีความสุข 
แต่จะดีกว่ามากเมื่อคนอื่นมีความสุขเพราะคุณ..

Rivers do not drink their own water; 
trees do not eat their own fruit; the sun does not shine on itself 
andflowers do not spread their fragrance for themselves. 
Living for others is a rule of nature. 
We are all born to help each other. 
No matter how difficult it is. Life is good when you are happy;
 but much better when others are happy because of you..

Unknown

Image by sasint from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

การภาวนาไม่ใช่การ บ่นมุบมิบ


ผู้ที่เริ่มสนใจในการภาวนา
ควรต้องทำความเข้าใจก่อนว่า
การภาวนาไม่ใช่การ บ่นมุบมิบ 
หรือสวดอ้อนวอนหรือจำกัดที่การนั่งหลับตา 
แต่การภาวนาคือการที่เรามีสติ สัมปชัญญะ 
คอยเฝ้าเรียนรู้ กาย ใจ
เพื่อให้เห็นตามจริงว่า กาย ใจนี้ 
แปรปรวนไม่แน่นอน บังคับไม่ได้ 
ไม่ได้มุ่งหวังความสงบสบาย 
แต่เพื่อเมื่อเห็นจริงแล้วจะเพิกถอน
ความเห็นผิดออกจากใจได้
เมื่อเห็นถูกแล้วผู้ประพฤติ
ย่อมเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องเอง 
พ้นจากความลังเลสงสัย 
เพราะรู้ว่าอะไรเป็นทางอะไรมิใช่
ทางสายนี้ต้องประพฤติตลอด
ในชีวิตสำหรับผู้มีมรรคผลเป็นแก่นสาร.....

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Image by GoranH from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)



 

จิตเป็นเหมือนแม่เหล็ก


จิตเป็นเหมือนแม่เหล็ก
ถ้าคิดถึงสิ่งดีๆ 
ก็ดึงดูดสิ่งดีๆ  
ถ้าคิดถึงปัญหา 
ก็ดึงดูดแต่ปัญหา 
ดังนั้น จงปลูกฝังความคิดดีๆ  
และคิดบวก มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ 
เราได้รับสิ่งที่เราคิด 
ดังนั้น จงคิดบวก 
ชีวิตก็จะเป็นบวกโดยอัตโนมัติ

Your mind is a magnet.
"If you think of blessings, you attract blessings; 
And if you think of problems, you attract problems. 
Always cultivate good thoughts 
and always remain positive and optimistic. 
We get what we think, so think positive, 
life will be automatically positive."

Unknown

Image by bitnikgao from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

ก็ได้แค่เอาธรรมมาเถียงกัน


ธรรมะที่มีไว้เถียงกันนั้นไม่ถูกต้อง 
คนนั้นผิด 
ถามดูว่าจะให้ทั้งโลกถูกหมด
ตามที่ตนคิดได้ไหม 
ถ้าเข้าใจธรรม น้อมมาในใจตน 
ทุกข์จะน้อยลง จะเกิดประโยน์

รู้ธรรม ไม่เป็นทิฐิ มานะ 
อหังการ มมังการยิ่งมาก 
อัตตามาก

รู้ธรรม ตัวตนย่อมน้อยลง ยิ่งอ่อนน้อม

อย่าเผลอไปในเหตุและผล 
นอกเหนือเหตุและผล จึงหลุดพ้น

อ่านตำรา ฟังธรรมเยอะแค่ไหน
แต่ยังทุกข์  ไม่รู้ต้นเหตุ 
และทางออกจากทุกข์ 
ก็ได้แค่เอาธรรมมาเถียงกัน

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

Image by bitnikgao from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)



 

ไม่รับมุข


จิตที่มีสติ เขาทำหน้าที่ รับรู้เฉยๆ
อารมณ์ดีผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
อารมณ์ไม่ดีผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ไม่ขึ้นไม่ลง ไม่หัวเราะ ไม่ร้องไห้ 
เรียกว่า “ไม่รับมุข”
เป็นปกตินิ่งอยู่ อันนี้คือสภาวะของจิต 
ง่ายไหมไม่ต้องทำอะไรนะ 
ถ้าไปทำเมื่อไหร่ล่ะก็ไม่ปกตินะ วุ่นวาย

อ.กำพล ทองบุญนุ่ม

Image by Wildphoto1 from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

ค้นให้พบความสงบภายใน


หากมีความสงบในใจ 
เธอจะพบความสงบสุขกับทุกคน 
ถ้าใจกระวนกระวาย
ใจจะพบความกระสับกระส่ายในทุกที่ 
ดังนั้นก่อนอื่น ค้นให้พบความสงบภายใน
แล้วเธอจะเห็นความสงบภายในนี้
สะท้อนออกมาทุกแห่ง 
เธอคือความสงบนี้ 
เธอคือความสุข จงค้นหาให้พบ 
เธอจะพบความสงบสุขที่ไหนได้อีก
ถ้าไม่ใช่ในตัวเธอ?

If there is peace in your mind you will find peace with everybody. 
If your mind is agitated you will find agitation everywhere. 
So first find peace within and you will see this inner peace reflected everywhere else. 
You are this peace. You are happiness, find out. 
Where else will you find peace if not within you?

~ Papaji

Image by TheOtherKev from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)



 

ปัญญาที่เกิดเองอัตโนมัติ


จิตนิ่ง ว่างจากการปรุงแต่ง ก่อเกิดความสงบ ..
ความสงบ..ก่อเกิดปัญญาญาณ ที่เหนือความคิด
.
ปัญญาที่เกิดจากการขบคิด ใคร่ครวญ 
พิจารณา (วิปัสสนา) มีอยู่..
และปัญญาที่เกิดเองอัตโนมัติ
จากจิตนิ่งก็มีอยู่ เป็นปัญญาธรรมชาติ 
ที่เหนือความคิด ไม่อาศัยความคิด 
เกิดจากการตัดรู้ต่างๆ ทิ้งไป 
ให้คงซึ่งความว่างของจิต 
ปัญญาญาณจะผุดมีขึ้นเองอัตโนมัติ

ให้ฝึกมีจิตนิ่ง [จิตว่าง] จะเข้าถึงปัญญาญาณ 
ที่เป็นปัญญาของธรรมชาติ 
เป็นปัญญาที่บริสุทธิ์ล้วนๆ..

ปัญญา..พาหลุดพ้น..
หากปรารถนาจะไปถึงความหลุดพ้น 
จำเป็นต้องอาศัยปัญญา 

อิโตมิ จัง

Image by tenomgroup from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)




 

ทาสอายตนะ


ความเป็นทาส 
ปุถุชน  จิตจมอยู่กับเหยื่อ (กามคุณ) ในโลก
.
ความทุกข์...มันมาจาก
การทำผิดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 
ที่เรียกว่า...ทำผิดในที่นี้ 
หมายความว่ายังไง? 
หมายความว่า...เราเป็นทาสอายตนะ
การเป็น “ทาสอายตนะ” นั่นแหละ 
คือ ปัญหาทั้งหมดของความทุกข์ 
เป็นทาส หรือเป็นขี้ข้า ไม่เป็นอิสระแก่ตัวเอง 
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันต้องการอะไร
เราต้องไปหาให้มันเร็วๆ ใช่ไหม? 
นี่เขาเรียกว่าเป็น “ทาส” 
ไม่มี...ความเป็นอิสระ
เสรีภาพ ของ “พระอริยเจ้า” 
คือ ไม่เป็นทาสของอายตนะ ไม่เป็นบ่าว
ไม่เป็น “ขี้ข้า” ของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ปัญหาทั้งหลายมันอยู่ที่
เรานี่เป็นทาสของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
นี่ก็คือ..“เคล็ดลับ”
.
ท่านพุทธทาสภิกขุ
ที่มา : ธรรมบรรยายเรื่อง 
“ผู้ที่จะเป็นครูควรจะรู้ความลับของสิ่งที่เรียกว่าชีวิต”

Image by anselmo7511 from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)




 

เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ไม่ใช่เรา


รักใคร เราก็รู้ โกรธเกลียดใคร เราก็รู้
แต่ที่ไม่รู้คือความรัก ความโกรธเกลียด 
เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ไม่ใช่เรา
 มีความแปรปรวน ไม่คงทน บังคับไม่ได้จริง
ให้สังเกตุให้ดีนะ ถ้ารู้เข้าใจบ้างแล้ว 
ทั้งรัก ทั้งโกรธ จะมีน้ำหนัก
ในจิตใจน้อยลงเรื่อยๆ 
จะมีผลพวงคือความทุกข์ในใจนั้น
ก็ลดน้อยลงด้วย ใจจะเป็นอิสระมากขึ้นๆ
ไร้การเกาะเกี่ยวผูกพัน…

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Image by JillWellington from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

การยึดคือความหลง


ถ้ามันไม่รู้ก็เรียกว่าหลง 
อาการของหลงก็คือ “การยึด” 
ถ้าเป็นอาการของรู้นี้ มันจะรู้เท่านั้น 
ไม่มีอุปาทานความยึด 
รู้ไม่ยึดนี้คือรู้อย่างไร 
เหมือนกันกับเราอยู่กุฏินี้แหละ 
รู้อยู่ว่าเราอยู่กุฏิ 
แต่ว่าไม่ได้มีความยึดว่ากุฏิเป็นของเรา..
แต่ว่าอาศัยมันอยู่ พึ่งร่มเงากันลมกันแดดมันอยู่ 
จะหนีจากมันก็ให้มันอยู่ประสามัน 
เราก็ไปตามประสาเรา 
เรียกว่าอยู่ด้วยกันแต่ว่าต่างอันต่างอยู่
ไม่เชื่อมกัน ไม่ยึดกัน

หลวงพ่อสมคิด อจโล

Image by Anrita1705 from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

เกิด "เขา" คือเกิด


พระพุทธศาสนาบอกว่า
เกิด "เขา" คือเกิด
รักเขาคือเกิด อิจฉาเขาก็คือเกิด
หลายคนบอกว่าไม่อยากเกิดอีกแล้ว
แต่ยังพอใจจะไปโกรธคนนั้น
อิจฉาคนนี้ มันขัดกันอยู่ในตัว
ฉะนั้นต้องเบื่อที่จะไปอิจฉาเขา
เบื่อที่จะไปโกรธเขา
เบื่อที่จะไปอยากได้ อยากมี
เกิดก็คือความเกิดของกิเลส
ถ้าเราไม่อยากเกิด ก็อย่าให้กิเลสเกิด
พระอาจารย์ชยสาโร
Image by CokeLifeCreative from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

 

 

อย่าค้นหารากของสรรพสิ่ง


อย่าค้นหารากของสรรพสิ่ง
จงค้นหารากของจิตใจ!
เมื่อค้นพบรากของจิตใจแล้ว
เธอจะรู้สิ่งหนึ่ง
แล้วทั้งหมดก็เป็นอิสระด้วยสิ่งนี้
แต่ถ้าหารากของจิตใจไม่เจอ
เธอจะรู้ทุกอย่าง
แต่ไม่เข้าใจอะไรเลย

ท่านคุรุ รินโปเช

Don’t investigate the root of things, investigate the root of mind!
Once the mind’s root has been found, You’ll know one thing, yet all is thereby freed.
But if the root of mind you fail to find, 
You will know everything but nothing understand.

---

Padmasambhava

[From the book "Counsels from My Heart"]

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

 

เราไม่เคยแยกออกจากการตื่นรู้


พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราไม่เคยแยกออกจากการตื่นรู้
แม้ในเวลาที่เรารู้สึกติดขัดมากที่สุด 
เราก็ไม่เคยแปลกแยกจากสภาวะแห่งการตื่น
แม้แต่คนธรรมดาอย่างพวกเราที่กำลังทุกข์และสับสน
ก็มีจิตแห่งการรู้แจ้งนี้ที่เรียกว่าโพธิจิต
ความเปิดกว้างและความอบอุ่นของโพธิจิต
เป็นธรรมชาติและสภาพที่แท้จริงของเรา

ภิกษุณีเพม่า โชดรัน 

The Buddha said that we are never separated from enlightenment.
Even at the times we feel most stuck, we are never alienated from the awakened state.
This is a revolutionary assertion. 
Even ordinary people like us with hangups and confusion 
have this mind of enlightenment called bodhicitta.
The openness and warmth of bodhicitta is in fact our true nature and condition.
---
Pema Chödron
[From the book "The Places That Scare You: A Guide to Fearlessness in Difficult Times"]

Image by Pezibear from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)




 

ที่ใดไร้การยึด


ที่ใดไร้การยึด 
ที่นั่นก็ไร้ ทัศนะ ข้อจำกัด 
การไม่ยึดมั่นถือมั่น
จะเป็น สัมมาทิฏฐิ เอง

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

Image by Jacop_H from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตคือความคิด


ความคิดมิใช่ตัวเรา มิใช่ของเรา 
ดังนั้น เราควรใช้สติปัญญามากกว่าการเชื่อความคิด

/////////////

ต่อให้เป็นศัตรูตัวฉกาจ
ก็ไม่มีทางทำร้ายคุณได้บ่อยๆ 
มีแต่ความคิดในหัวตัวเองเท่านั้น
ที่ทำร้ายคุณได้ทุกนาที
.
คุณต้องพูดและทำอะไร
ที่เข้าท่ามากมายหลายปี
กว่าจะประสบความสำเร็จ 
แต่เพื่อความล้มเหลวในชีวิต
แค่คิดไม่เข้าท่าวันเดียวก็พอแล้ว
.
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตคือความคิด
เพราะความคิด
อาจพังโลกได้ก่อนโลกพัง 
และพาเราเข้าถึงความมืด
ได้ก่อนความมืดจะมาถึง
.
อยู่ในที่มืดมิด 
ไม่น่ากลัวเท่าอยู่กับความคิดที่มืดมน
คนส่วนใหญ่ใช้เวลาในชีวิต
ครุ่นคิดถึงเรื่องน่าเจ็บใจ
มากกว่าเรื่องน่าสบายใจ 
แค่นี้ก็เพียงพอจะเป็นเหตุ
ให้ตายอย่างไม่สบายใจแล้ว
.. .. .. .. .. .. .. .. ..
เรื่องใดรบกวนจิตใจได้ 
คุณไม่มีทางตั้งใจสลัดทิ้งให้ขาด
แต่อาจเฝ้าสังเกตว่า
มันรบกวนจิตใจน้อยลงเรื่อยๆ 
เมื่อคุณไม่สู้และไม่เล่นกับมัน
.
ความคิดที่ดีที่สุดของมนุษย์ 
คือความคิดที่ชักนำใจ
ให้มารู้ มาดู
ความไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่ใช่ตัวตนของกายใจได้
.
วิธีกำจัดความคิดร้ายๆ 
ไม่มีอะไรดีไปกว่า
ตามรู้จนยอมรับได้จริงๆ ว่า
มันมาเอง คุณไม่ได้เชิญ
และมันไม่ใช่คุณ
.. .. .. .. .. .. .. .. ..
เวลาฝึกเห็นความคิดร้ายๆ 
อย่าฝึกด้วยการคาดหวังว่า
มันจะหายไปหรือไม่เกิดอีก 
ฝึกด้วยการยอมรับว่า
เรากำหนดไม่ได้ว่าจะมาจะไปกี่พันครั้ง
.
ตอนที่พยายามเปลี่ยนความคิด
แล้วมันไม่ยอมเปลี่ยนตามที่เราต้องการนี่แหละครับ 
เป็นโอกาสทองที่เราจะเห็นความจริง
อันเป็นหนึ่งในแก่นความรู้ทางพุทธศาสนา 
นั่นคือ ความคิดไม่ใช่ของเรา 
ความคิดไม่ใช่สิ่งที่บังคับบัญชาได้ตามปรารถนา 
ความคิดเป็นเพียงสิ่งแปลกปลอมจรมารบกวนจิตใจชั่วคราว 
.
หรือสรุปย่นย่อ คือ 
ความคิดเป็นอนัตตา 
ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา 
ไม่มีเราในความคิด!

ดังตฤณ

Image by tixonov_valentin from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)