ทักทายกันหน่อยน้า





ทำบล็อกมาก็น้าน..นาน ไม่เคยโชว์ตัวเลย คนทำบล็อกอยู่นี่จ้า ไม่ต้องชมว่าสวย เพราะรูปที่เอามาลงนี่ ขี้เหร่น้อยที่สุดแล้วละ 555..เราเห็นคนมาคลิกบล็อกนี้ วันหนึ่ง 200-500 คน แต่ไม่เคยได้รู้ว่า ท่านเป็นใครกันบ้าง..จะคุยกันที่คอมเมนท์ใต้โพสต์นี่ก็ได้นะ หรือว่าจะไปเยี่ยมชมเฟซบุ๊ค เราก็ยินดี...คือเราเอาขึ้นเฟซก่อนน่ะ แล้วค่อยเอามาขึ้นบล็อก (ในเฟซจะมีเนื้อหามากกว่าในบล็อกนะ) 

ยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ



จะมีใครบ้างไหมทักทายฉัน     คอมเมนท์กันข้างล่างบ้างได้ไหม
อยากรู้จักจังเลยนั่นท่านคือใคร  
เว็บกว้างใหญ่อยู่คนเดียว..เปลี่ยวจริงๆ

***ใต้โพสต์นี้มีคอมเมนท์แล้วนะคะ..ขอเชิญทุกท่านค่ะ***

นี่คือที่ที่พ้นภัย นี่คือที่แห่งความสงบ


ความเสียใจพาเราไปสู่อดีต 
ความคาดหวังพาไปสู่อนาคต 
หากไม่มีทั้งสองสิ่งนี้ 
เราก็จะพบว่าตัวเองอยู่ในปัจจุบัน
อย่างเป็นธรรมชาติและไม่ต้องทำอะไรเลย 
นี่คือที่ที่พ้นภัย นี่คือที่แห่งความสงบ

“Regret takes us into the past, expectation into the future. 
In the absence of these two, we find ourselves naturally, effortlessly, in the Now. 
The place of refuge. The place of peace.”

 – Rupert Spira

Image by balouriarajesh from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)



 

วิธีปฏิบัติแบบลัดสั้น


วิธีปฏิบัติแบบลัดสั้น
คือเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า
เชื่อลงไปเลยว่ามันไม่มีเราตั้งแต่ทีแรก
ต่อมามันมีเหตุมีปัจจัย มันก็เกิดเป็นเราขึ้นมา
ธาตุพ่อธาตุแม่ผสมกัน จิตวิญญาณมาอาศัย
โตขึ้นๆ มีขันธ์ห้าขึ้นมา 
ก็หลง หลงยึดขันธ์ห้ามาเป็นเรา 
พอสาวเข้าไปจริง ๆ 
กายก็ไม่ใช่ จิตก็ไม่ใช่
มันไม่มีเรา! 
มันเป็นแค่กระบวนการของธรรมชาติ
เกิดแล้วดับหมด..ไม่ว่ากายไม่ว่าจิต..
มันจึงเป็นเราโดยสมมติ
เพราะฉะนั้นถ้าไม่เข้าใจ 
มันเอาเราไปปฏิบัติ มันยากเลยนะ 
เพราะมันจะมีความอยากขึ้นมา
เราจะเอาอย่างโน้นไม่เอาอย่างนี้ 
จะเอาสติจะเอาสมาธิจะเอาปัญญา
มันถูกหรือมันผิด 
เราจะไปละโน่นละนี่
มีเราหมดเลย!! 
โอ๊ยมันมีเราแล้ว แล้วจะไปละได้ยังไงล่ะ
ต้องเชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าลงไปว่าไม่มีเรา! 
แล้วก็ดูว่ามันมีเหตุ...ก็เกิดขึ้น 
หมดเหตุ...ก็ดับไป....อะไรโผล่มา..
ไม่ใช่! ไม่ใช่เรา!! ดูเฉย ๆ
แค่อย่างเนี้ยมันจะเบาสบายทันทีเลยนะ
อะไรโผล่มาก็ช่าง_มันไม่ใช่เรา!
ใส่ความจริงเข้าไปมันไม่ใช่เราเนี่ยมันเป็นสัมมาทิฏฐิ
มันจึงจะเป็นทางออกนะ
ความไม่มีเราคือทางออก 
ความจริงนี่แหละ
ที่ทำให้จิตเราสามารถออกจากความหลงนี้ได้
แต่ถ้าเราหลงว่าเป็นเราๆ มันออกไม่ได้
.
พระอาจารย์ครรชิต สุทฺธิจิตฺโต

Image by NickyPe from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)



 

คืออิสรภาพที่แท้จริง


 

คุณใช้เวลาทั้งชีวิตในการพยายาม 
เป็น 'ใครสักคน' ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แต่ตอนนี้ 
คุณกำลังค้นพบว่าแท้จริงแล้วคุณไม่ใช่ใครเลย 
นี่เป็นการค้นพบที่สำคัญและลึกซึ้งที่สุด
ที่มนุษย์สามารถทำได้ และในการค้นพบครั้งนี้
คืออิสรภาพที่แท้จริง ความสุขที่แท้จริง 
และความสงบที่แท้จริง

You spend your whole life trying to be the best ‘someone’ you can be, 
but now you are discovering that you are actually no one. 
This is the most significant and profound discovery a humane being can make, 
and in this discovery is true freedom, true joy and true peace.

ท่าน Mooji

Image by Akinz from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

เขาไม่ให้อาหารมัน


แม้คนที่มองโลกในแง่บวกที่สุด
ก็ยังมีความคิดลบ ความลับอยู่ที่
เขาไม่ให้อาหารมัน

Even the most positive people have negative thoughts, 
the secret is not to feed them.

Unknown

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

เสรีภาพที่แท้จริง


เสรีภาพที่แท้จริง คือเสรีภาพจากความอยาก
ที่จะมีความรู้สึกดีๆ ตลอดเวลา

Real freedom is the freedom from the demand to feel good all the time.

Adyashanti

ภาพจาก Sadia ใน Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

เมื่อนั้นขณะนั้นแหละใจเป็นพรเป็นมงคล


เมื่อใดที่รู้สึกตัว
รู้เท่าทัน บาป อกุศล ทั้งมวล
จน โลภะ โทสะ โมหะ
ตั้งอยู่ในใจไม่ได้
เมื่อนั้นขณะนั้นแหละใจเป็นพรเป็นมงคล
ถ้าทำได้ตลอดปีใจก็เป็นพรเป็นมงคลตลอดปี
ถ้าปล่อยให้โลภะ โทสะ โมหะ ครองใจ
ต่อให้สวดมนต์ข้ามปีมา ก็ยาก
ที่ปีนั้น จะได้รับพรอันเป็นมงคลจริง.....
แต่ถ้าเมื่อสวดมนต์มาแล้วจิตใจมีความสงบเย็น
แล้วต่อยอดจากตรงนั้นโดยการภาวนา
รู้เท่าทันอกุศลในใจ นั่นก็ถือว่าได้ผลอันควร
จากการสวดมนต์ข้ามปี ไปตลอดทั้งปีทีเดียว
พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

พ้นจากอารมณ์ ทั้งปวง


ตื่นจากสุข ตื่นจากทุกข์
พ้นจากอารมณ์ ทั้งปวง 
เหนือมัน ไม่ใช่ไม่มี ตราบใดยังมีกาย 
พ้นก็คือ มันก็มีอยู่ แต่ทำร้ายเราไม่ได้
เพราะตัวความรู้สึกนั้นตัวมันเอง
ก็อยู่ไม่ได้นานมีแค่ขณะเดียว 
ถ้าเราไม่หลงเอามาเป็นเราของเรา 
สิ่งนั้นก็ย่อมดับ หรือ หายไป  
ไม่มีวิธีใดๆ ถ้าหลงทำ หลงหาวิธี 
แล้วก็ติดแค่ความคิด

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

Image by darksouls1 from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

การมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่นเป็นกฎธรรมชาติ


แม่น้ำไม่ดื่มน้ำของตัวเอง 
ต้นไม้ไม่กินผลของมันเอง 
พระอาทิตย์ไม่ส่องแสงให้ตัวเอง 
และดอกไม้ก็ไม่ส่งกลิ่นหอมให้ตัวเอง 
การมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่นเป็นกฎธรรมชาติ 
เราทุกคนเกิดมาเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 
ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม 
ชีวิตจะดีเมื่อคุณมีความสุข 
แต่จะดีกว่ามากเมื่อคนอื่นมีความสุขเพราะคุณ..

Rivers do not drink their own water; 
trees do not eat their own fruit; the sun does not shine on itself 
andflowers do not spread their fragrance for themselves. 
Living for others is a rule of nature. 
We are all born to help each other. 
No matter how difficult it is. Life is good when you are happy;
 but much better when others are happy because of you..

Unknown

Image by sasint from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

การภาวนาไม่ใช่การ บ่นมุบมิบ


ผู้ที่เริ่มสนใจในการภาวนา
ควรต้องทำความเข้าใจก่อนว่า
การภาวนาไม่ใช่การ บ่นมุบมิบ 
หรือสวดอ้อนวอนหรือจำกัดที่การนั่งหลับตา 
แต่การภาวนาคือการที่เรามีสติ สัมปชัญญะ 
คอยเฝ้าเรียนรู้ กาย ใจ
เพื่อให้เห็นตามจริงว่า กาย ใจนี้ 
แปรปรวนไม่แน่นอน บังคับไม่ได้ 
ไม่ได้มุ่งหวังความสงบสบาย 
แต่เพื่อเมื่อเห็นจริงแล้วจะเพิกถอน
ความเห็นผิดออกจากใจได้
เมื่อเห็นถูกแล้วผู้ประพฤติ
ย่อมเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องเอง 
พ้นจากความลังเลสงสัย 
เพราะรู้ว่าอะไรเป็นทางอะไรมิใช่
ทางสายนี้ต้องประพฤติตลอด
ในชีวิตสำหรับผู้มีมรรคผลเป็นแก่นสาร.....

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Image by GoranH from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)