เราก็มาดูว่าเราเห็นหรือยัง...?


พระพุทธเจ้าได้เคยตรัสว่า
ก็ผู้ใดไม่เห็นความเกิดขึ้น
และความเสื่อมไป
พึงเป็นอยู่ ๑๐๐ ปี
ความเป็นอยู่วันเดียว
ของผู้ที่เห็นความเกิดและความเสื่อม
ย่อมประเสริฐกว่า
ความเป็นอยู่ของผู้นั้น
คนที่มีชีวิตอยู่วันเดียว
แต่เห็นความเกิด เห็นความเสื่อม
ประเสริฐกว่าคนเป็นอยู่ ๑๐๐ ปี
แต่ไม่เห็นความเกิด ความเสื่อม
ความเกิด ความเสื่อมแห่งสังขาร
ของรูป ของนาม ของปรมัตถธรรม
ถ้าบุคคลใดได้เข้าไปรู้ไปเห็นได้
เห็นรูป เห็นนาม
มันเกิด มันเสื่อม มันดับ
แม้วันนั้นจะตายลง
มีชีวิตอยู่วันเดียวตายลง
ก็ประเสริฐกว่าคนเป็นอยู่ ๑๐๐ ปี
แต่ไม่เห็น
เราก็มาดูว่าเราเห็นหรือยัง...?
เราอายุกี่ปีแล้ว...?
ยังไม่เห็นความเกิด
ความเสื่อมของสังขาร
ตายเสียก่อน มันก็ไม่ประเสริฐ
ได้ชีวิตมาไม่ประเสริฐ
ต้องทำให้เห็นก่อนจะตาย
ต้องให้เห็นความเกิด
ความเสื่อม
โดยเฉพาะการรู้เห็นจริงๆ
ด้วยญาณ ด้วยปัญญา
ด้วยการเจริญภาวนา
การรู้เห็นแจ้งรู้จริงๆ ก็อย่างหนึ่ง
การรู้แบบคิดนึกพิจารณาเอา
ก็ยังไม่ใช่เห็นแจ้ง
แต่ก็ยังดี ยังสร่างเมา
ยังละ ยังสละ ยังสังเวช
ยังเป็นผู้ลดละลงไปได้ตามสมควร
แต่ถ้าเห็นแจ้งจริงๆ
มันจะละได้เด็ดขาด
‪‎ธัมโมวาท‬ โดยพระวิปัสสนาจารย์
‪‎ท่านเจ้าคุณ‬ ‪‎พระภาวนาเขมคุณ‬
(พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี)
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

15 ก.ย..68 




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น