อย่ามัววนเวียนอยู่ในโลกของความคิด



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

จะต้องอ่านตัวจริงที่ปรากฏให้แจ่มแจ้งอยู่ทุกขณะ



ถ้ามีการหยุดดูหยุดรู้จิตใจของตนอยู่เนืองนิจแล้ว 
มันจะเป็นการตัดรอนทอนกำลังทางผัสสะได้มากมายเหลือประมาณ 
เพราะมันกระทบทีไร ก็ตามเห็นความดับของมัน 
ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปอย่างนี้ทุกลมหายใจเข้าออก 
ไม่มีอะไรให้น่าเอาน่าเป็นแต่ประการใดเลย
เรื่องต่างๆ ที่จำมาปรุงมาคิดนั้น มันก็เป็นความฝันชั่วขณะหนึ่ง แล้วก็ดับไป
เป็นไปในลักษณะนี้เฉพาะหน้า ปัจจุบัน 
ถ้าเป็นการดูจริง รู้แจ้ง ในลักษณะของอารมณ์ทั้งหลาย
ที่ปรากฏเกิดดับเฉพาะหน้าทุกขณะแล้ว 
มันก็เป็นผัสสะที่กระทบแล้วก็ดับ กระทบแล้วก็ดับ 
ไม่มีความหมายว่าเป็นดีเป็นชั่ว หรือเป็นสุขเป็นทุกข์

@@@**ข้อปฏิบัติที่น่าสนใจ คือ จะต้องอ่านตัวจริงที่ปรากฏให้แจ่มแจ้งอยู่ทุกขณะ 
ไม่ต้องไปมีความจำหมายเอาเรื่องอะไรมา มันมีแต่ความปล่อยวางว่างเปล่าไป 
ดูความจริงของอารมณ์ และผัสสะทั้งหลาย 
มันแสดงความเปลี่ยนแปลง ว่างเปล่าจากความเป็นตัวตนอยู่เฉพาะหน้าทุกๆ ขณะ
ถ้าอ่านออกในเรื่องนี้แล้ว ข้อปฏิบัติจะไม่มีการไถลไปหรือเฉไฉ
ไปเอาเรื่องจำเรื่องคิดเข้ามา เป็นการทำให้นุงถุงยุ่งยาก 
แล้วก็เป็นการชักใยพันตัวเองอย่างซ้ำๆ ซากๆ
ลักษณะของจิตที่มีการรู้ตัวนั้น มันมีความแจ่มใส ไม่มืดมัว ไม่เร่าร้อน ไม่เศร้าหมอง 
จึงเป็นจิตที่ปราศจากกิเลสตัณหา แล้วก็เป็นจิตที่สะอาด สว่าง สงบ ขึ้นมา**@@@

ท่าน ก.เขาสวนหลวง

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ถ้าหากยังไม่รู้สึกตัว ยังไม่รู้ธรรมะ




ความรู้สึกตัวนี้ทำให้คนพ้นจากสภาวะสภาพหรือภาวะทุกข์ได้จริงๆ
พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ต้องทำความรู้สึกตัว
ถ้าไม่ทำความรู้สึกตัวแล้วเป็นพระอริยบุคคลไม่ได้
แม้จะนับเม็ดหินเม็ดทรายในมหาสมุทรครบทุกเม็ด
ก็เป็นพระอริยบุคคลไม่ได้ 
แม้จะรู้พระไตรปิฎกทั้ง ๘๔, ๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ถ้าหากยังไม่รู้สึกตัว อันนั้นก็ยังไม่รู้ธรรมะ


หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา