นี่เป็นปัญญาแท้ๆ


ปัญญา คือ รู้ว่า สิ่งหนึ่งเกิด
สิ่งหนึ่งดับไป ก็พอ
รู้จนจิตยอมรับความจริง
ว่าแท้จริงแล้ว
ไม่มีสิ่งใดเป็นตัวตนเลย
นี่เป็นปัญญาแท้ๆ
ในทางพุทธศาสนา
เป็นปัญญาที่ตระหนักรู้ถึงความเป็นจริง
และแม้ความรู้ความเข้าใจตรงนั้น
ก็ไม่ยึดถือด้วย
เพราะปราศจากความหมายมั่น
ว่าเป็นเราของเรา
จึงไม่มีเรื่องมาโต้เถียง
เพื่อเอาชนะคะคานกับใคร
ให้ตั้งใจไว้นะว่าภาวนาเพื่อละ
ไม่ใช่ภาวนาเพื่อเอาความรอบรู้
ไม่ได้ภาวนาเพื่อเหนือคนอื่น
เพราะถึงที่สุดแล้ว
ย่อมไม่เหลือการเปรียบเทียบทั้งมวลนะ

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 


 

เพราะตอนตาย มันคือแดนเกิด


ขณะมีชีวิต
เจอสิ่งที่ถูกใจ ไม่ถูกใจ
ชอบ และ ไม่ชอบ
ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง
เห็นสิ่งเหล่านี้ให้เป็นมายาขณะมีชีวิต
เพราะตอนตาย มันคือแดนเกิด

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 


 

การยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้


มีแต่คนโง่เท่านั้น
ที่พยายามหยุด ความสั่นไหวแห่ง
เงาสะท้อนของดวงจันทร์บนผืนน้ำ
การยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ปูทางไปสู่ความไร้การเปลี่ยนแปลง

ท่านหวู ซิน
“Only the fool
Seeks to stop
The shaking of
The moon’s reflection on the water.
The acceptance of what
Cannot be changed
Paves the way to
The changeless”

~ Wu Hsin
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 


 

กุญแจขุมทรัพย์


ขุมทรัพย์ไม่ได้อยู่ในหนังสือ
หรืออยู่ในครูของเธอ
แต่อยู่ที่ตัวเธอ
และกุญแจที่ไขไปสู่มันก็คือ
ความเข้าใจจิตใจของตัวเธอเอง
ท่านกฤษณมูรติ

The treasure is not in the books,
nor in your guru,
It is in yourself;
and the key to it
is the understanding
of your own mind.
J. Krishnamurti

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 


 

พระพุทธเจ้ามิได้ทรงเป็น ผู้มองโลกในแง่ร้าย


พระพุทธเจ้ามิได้ทรงเป็น
ผู้มองโลกในแง่ร้าย
หรือผู้ที่พูดแต่เรื่องร้ายๆ
หากทรงเป็นผู้ที่มองโลกตามความเป็นจริง
แต่เราสิ มักเป็นผู้หลีกหนีความจริง
เมื่อพระองค์ตรัสว่า
สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนไม่เที่ยง
พระองค์มิได้ทรงมุ่งหมาย
ให้สิ่งนั้นเป็นข่าวร้าย
แต่เป็นเพียงข้อเท็จจริง
ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น
หากเรามีมุมมอง
และความเข้าใจในข้อเท็จจริงนี้
มันสามารถเป็นประตูสู่แรงบันดาลใจ
ความหวัง เกียรติยศ และความสำเร็จได้

ลามะ ซงซา รินโปเช

Buddha was not a pessimist or a doomsayer;
he was a realist, while we tend to be escapists.
When he stated that all assembled things are impermanent,
he did not intend for that to be bad news; it is a simple, scientific fact.
Depending on your perspective and on your understanding of this fact,
it can become a gateway to inspiration and hope, glory and success.
---
Dzongsar Khyentse Rinpoche
[From the book "What Makes You Not a Buddhist"]

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 

 

วิธีเดียวที่จะปลุกคุณให้ตื่นรู้ได้


วิธีเดียวที่จะปลุกคุณให้ตื่นรู้ได้
นั้นผ่านความเงียบ
ไม่ใช่การวิเคราะห์ข้อเท็จจริง
ไม่ใช่ด้วยการแยกแยะสิ่งดีชั่ว
แต่ด้วยความเงียบง่ายๆ คือการปล่อยวาง
ปล่อยวางความคิดทั้งหมด
ความเจ็บปวดทั้งหมด
ความเชื่อและแนวคิดทั้งหมด
จงปล่อยวางสิ่งเหล่านี้ทุกวัน
"The only way you will ever awaken is through silence,
not through analyzation of facts.
Not by sorting out good and bad,
but through simple silence, letting go.
Letting go of all thoughts, all the hurts,
all the dogmas and concepts.
Letting go of these things daily."

~ Robert Adams ~
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 


 

เมื่อรู้สึกตัว ก็ไม่เข้าไปเป็น


เรียนรู้ที่จะไม่จมกับทุกข์
เรียนรู้ที่จะไม่เพลินกับสุข
ชีวิตจึงมีแต่ความโปร่งเบา
เมื่อทุกข์ ให้รู้สึกตัว
เมื่อสุข ให้รู้สึกตัว
เมื่อรู้สึกตัว ก็ไม่เข้าไปเป็น
ไม่ไปแบก ไปคาดหวัง
ให้คงอยู่ หรือว่าจะดับไป
เกิดก็เพราะมีเหตุ
ดับก็เพราะหมดเหตุ
ก็ไม่มีใครไปแบกอะไร
จึงโปร่งเบา เพราะอิสระ จากสุข ทุกข์

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 

 

เมื่อเธอหยุดเชื่อความคิดในหัวตัวเอง


เมื่อเธอหยุดเชื่อความคิดในหัวตัวเอง
เธอจะได้กลับบ้านมาสู่ตัว (จริง) ของเธอ
The moment you stop believing the thoughts in your head,
you come home to yourself.

— Adyashanti, The End of Your World
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 

 

ความอยากของเรา กีดกั้นเราจากมรรคผลนิพพาน


หลวงพ่อปราโมทย์ :
จริงๆ มรรคผลนิพพานไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ
นิพพานไม่เคยหายไปไหนสักวันเดียวเลย
นิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตาเรามาแต่ไหนแต่ไร
ไม่ได้อยู่ไกลเลยนะ
อยู่ต่อหน้าต่อตานี่เอง แต่เราไม่เห็น
นิพพานคือความไม่ปรุงแต่ง
นิพพานมีชื่ออันหนึ่งว่า “วิสังขาร”
นิพพานมีชื่ออันหนึ่งว่า “วิราคะ”
ไม่มีความอยาก
ใจของเรามันมีความอยาก อยากปฏิบัติธรรม
อยากดี อยากโน่นอยากนี่ขึ้นมา
พอมันมีความอยากขึ้นมา มันก็ปรุง...
คอยควบคุมกายคอยควบคุมใจ
หาทางทำอย่างนั้นหาทางทำอย่างนี้
การที่พยายามทำอยู่นั่นแหละ
ทำให้ไม่เห็นนิพพาน...
ขันธ์ ๕ เค้าเป็นธรรมะที่ปรุงแต่ง
เรียก “สังขตธรรม”
เพราะฉะนั้นอย่างจิตเนี่ย
จิตอยู่ในขันธ์ ๕
จิตมีหน้าที่คิดนึกปรุงแต่ง
เราไม่ได้ฝึกให้มันไม่คิด
ไม่นึก ไม่ปรุง ไม่แต่ง
เมื่อขันธ์ ๕ เค้าทำงานแล้ว
อย่าหลงเข้าไปแทรกแซง
พวกเรานักปฏิบัติชอบแทรกแซงขันธ์ ๕
เช่น ร่างกายนี้มันจะหายใจ
เราก็ไปแทรกแซงการหายใจ
ไปเปลี่ยนจังหวะการหายใจ...
เคยยืน เคยเดิน เคยนั่ง
เคยนอน ท่านั้นท่านี้
เราก็เริ่มไปจำกัดมัน...
วิปัสสนานี่เราจะให้ขันธ์ทำงานไป
โดยเราไม่เข้าไปแทรกแซงขันธ์
เห็นขันธ์ไปตามความเป็นจริง...
ภาวะแห่งการสักว่ารู้สักว่าเห็นก็จะเกิดขึ้น
ใจจะไม่ดิ้นรน
เมื่อใจไม่ดิ้นรน ถึงจุดหนึ่ง
ใจจะเห็นธรรมะที่ไม่ดิ้นรน
ธรรมะที่ไม่มีความอยาก
ธรรมะที่ไม่ดิ้นรน คือ
“วิราคะ” กับ “วิสังขาร”
หรือ “นิพพาน” นั่นเอง
เพราะฉะนั้นไม่มีใคร
กีดกั้นเราไว้จากนิพพานเลย
ไม่มีใครกีดกั้นเราจากมรรคผล
เรากีดกั้นตัวเองด้วยความอยาก
จะได้มรรคผลนิพพานนั่นแหละ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68 

 


 

แก่นแท้ของการผูกติด


แก่นแท้ของการผูกติด
มิใช่อื่นใดนอกจากความอยาก
และการขจัดความผูกติดนั้น
เรียกว่าการหลุดพ้น
ทำได้ง่ายๆ โดยไม่ยึดติดกับ
สิ่งต่างๆ ที่ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป
นั่นย่อมนำมาซึ่งการบรรลุถึง
ความสุขอันเป็นนิรันดร์
''The essential nature of bondage is nothing
other than desire, and its elimination is known as liberation.
It is simply by not being attached to changing things
that the everlasting joy of attainment is reached.''

- Ashtavakra Gita
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

30 ก.ค..68