สมาธิอยู่ในอิริยาบถใดก็ได้




การภาวนาปฏิบัติในยุคนี้ ชอบนั่งสมาธิกันมาก 
เหมือนกับผูกขาดไปว่า 
การทำสมาธิ จะต้องนั่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 
นี่ก็เพราะความไม่เข้าใจในสมาธินั่นเอง
คำว่าสมาธิ มันเป็นเรื่องของจิตโดยตรง ...
จะอยู่ในอิริยาบถใดก็ได้ ขอให้จิตมีความตั้งมั่น


หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ

ผู้ชื่อว่ารักษาตัวด้วยดี



ผู้ปฎิบัติจึงต้องสังเกตเรื่องของจิต ในขณะที่มีสิ่งต่างๆ เข้ามาสัมผัสสัมพันธ์ 
จะเป็นทางรูป เสียง กลิ่น รส ทางใดก็ตาม ต้องจดจ้องอยู่ที่จิต 
การแสดงอากัปกิริยาต่างๆ ไปตามเหตุการณ์ที่มาเกี่ยวข้อง 
จะปรากฎขึ้นที่จิต มีสติเป็นผู้คอยจดจ้องมองดู ให้ทราบว่าดีชั่วผิดถูก...
มีปัญญาเป็นเครื่องใคร่ครวญพินิจพิจารณาแยกแยะกันออก
หรือตัดกันออกในสิ่งที่เห็นว่าไม่ดี นี่เราตามปฎิบัติตัวเอง ตามรักษาตัวเอง...
ปฎิบัติอย่างนี้ทุกอิริยาบถ ผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้รักษาตัวด้วยดี 

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

ชีวิตที่ลิ้มรสอมฤตธรรม มีสุข...



ชีวิตของผู้ปฏิบัติธรรมที่มีครูบาอาจารย์
และเพื่อนสหธรรมิก นับเป็นชีวิตที่มีค่า
ชีวิตที่ได้ลิ้มรสอมฤตธรรม 
อันพ้นแล้วจากกิเลสตัณหาทั้งปวง
นับเป็นชีวิตที่มีความสุข
ไม่มีสิ่งใดเปรียบปาน

หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท

จิตที่ฝึกดีแล้ว สุขตลอดกาล



         ความสุขของจิตเมื่อฝึกฝนดีแล้ว อบรมดีแล้ว มันสุขจริง มันสุขตลอดกาล ถึงแม้ร่างกายจะขาดอะไรก็ตาม หรือมันจะเป็นอะไรขึ้นมาก็ตาม ในเมื่อจิตได้รับการอบรมมาดีแล้ว มันไม่เดือดร้อน มันไม่ไปเป็นทุกข์ด้วย เพราะมันมีปัญญา มันรู้ความเป็นจริงว่ามีสังขาร หรือมีกายมีรูปนี่ หรือมีขันธ์ ๕ นี่ มันต้องทุกข์ ไม่มีใครหนีจะไม่ให้มีทุกข์ มันไม่มี

                                                                                                      หลวงปู่สรวง ปริสุทโธ

คนเราไม่อยากหนีจากทุกข์



          คนเราไม่อยากหนีจากทุกข์ ถ้าอยากหนีจากทุกข์คงจะพ้นทุกข์อยู่หรอก ... พระพุทธเจ้าท่านให้พิจารณาดู ... ‘ในสิ่งที่เกิดหรือเป็น’ นี่ก็เพราะว่าเราไม่ดูไม่พิจารณาเลย กลับเห็นว่าของตายเป็นของเป็น เห็นของเน่าของเหม็น กลายเป็นของหอม... พระพุทธเจ้าท่านว่าของที่อยู่กับตัวนั้นเป็นสิ่งโสโครก เราไม่เห็นตาม เราไม่ดูตามพระพุทธเจ้า ...ไม่เห็นว่าเนื้อหนังร่างกายของคนเรานั้นเป็นสิ่งเน่าเหม็นโสโครก เป็นของที่เน่าเปื่อย ...ถ้าเราเห็นเป็นจริงแล้ว มีทางที่จะเบื่อหน่าย…

                                                                                                หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล