ความจำเป็นเร่งด่วนคือ ต้อง “หนีอบาย”


พวกเราไม่รู้ว่า
ความจำเป็นเร่งด่วนของพวกเรา 
คือ ต้อง “หนีอบาย” ให้ได้ 
นี่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่สุดเลย
เรามักจะคิดว่าเรื่องปฏิบัติเอาไว้ก่อน
ขอเที่ยวขอเล่นเอาสนุกสนาน
ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ
พอเวลาหมดไป หมดไปนะ
แก่ลงมา ก็ภาวนาลำบาก
เจ็บไข้ได้ป่วย ภาวนาลำบาก
มีปัญหาชีวิตรุนแรงนะ ภาวนาลำบาก
ช่วงที่ยังแข็งแรง มีกำลังมีโอกาส
ก็ต้องรีบตักตวงภาวนา
เราไม่รู้ว่าการ ”หนีอบาย” เนี่ย
เป็นความจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะหน้าเลย 
สังเกตดูใจเราเนี่ย วันหนึ่ง
กุศลเกิดกี่ครั้ง อกุศลเกิดกี่ครั้ง
น่ากลัวขนาดไหน เห็นมั้ยว่า 
อกุศลเกิดบ่อย ยิ่งอกุศลเกิดถี่เท่าไร
แล้วเราไม่รู้นะ มันก็พาเราไป "อบาย" เท่านั้นเอง

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
เครดิต ศาลากาญจนาภิเษก 
(ศาลาลุงชิน)

Image by Daniel Mingook Kim from Pexels

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


บุญ กับ บาป เป็นสิ่งที่มีค่าเท่ากัน



บุญ กับ บาป เป็นสิ่งที่มีค่าเท่ากัน
...มีค่าเท่ากันอยู่ที่ตรงไหน 
อยู่ตรงที่ดวงจิตของสัตว์
ให้ติดข้องอยู่ในวัฏสงสาร 
แต่แตกต่างกันโดยการให้ผล 
บุญให้ผลเป็นสุข บาปให้ผลเป็นทุกข์... 
เพราะฉะนั้น...ต้องสละทิ้งทั้งบุญและบาป 
ถ้ายังเกาะบุญอยู่ก็ยังข้องอยู่ในวัฏสงสาร 
เกาะบาปอยู่ก็ยังข้องอยู่ในวัฏสงสาร 
ยังไม่พ้น ต้องพ้นทั้งบุญและบาป

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Image by AJS1 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



มีแต่เพียงความยึดมั่นถือมั่น ในกายในใจ


ความเป็นจริงที่ทารุณ
ต่อความรู้สึกของคนไม่เคยฝึกจิตก็คือ
"ตัวเรา-ของเรา" ที่แท้จริงนั้นไม่มี
มีแต่เพียงความยึดมั่นถือมั่น
ในกายในใจ หรือรูปนามนี้
ว่าเป็นตัวเรา-ของเราเท่านั้น
วัตถุที่ทุกคนแสวงหาในทางโลกทั้งหมด
จึงเป็นเพียงความสูญเปล่าเท่านั้นเอง

พระอาจารย์มหาวิเชียร ชินวังโส

Image by weareaway from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




จะภาวนาหรือไม่ภาวนา มันก็จบอยู่ในตัวแล้ว


พวกที่หลงโลกก็มีหลงอยู่ ๔ ประการ
๑. หลงของไม่เที่ยงว่าเป็นของเที่ยง 
คือหนังหุ้มอยู่โดยรอบที่สมมติว่าเป็นเราๆ นี้
๒. หลงของเป็นทุกข์ว่าเป็นสุข 
คือหนังหุ้มอยู่โดยรอบนี้อีกล่ะ
๓. หลงของไม่ใช่ตัวตนว่าเป็นตัวตน
เอาจริงๆ จังๆ จนแกะไม่ได้คลายไม่ออก
๔. หลงหนังหุ้มอยู่โดยรอบ
อันเป็นของบูดราเปื่อยเน่า
ว่าเป็นของสวยงาม
ถ้าเราไม่หลงสิ่งเหล่านี้แล้ว 
ภพชาติของเราก็จบใน ณ ที่นี้เอง 
จะภาวนาหรือไม่ภาวนา
มันก็จบอยู่ในตัวแล้ว 
แม้จะภาวนา ๗ วัน ๗ คืน
ไม่กินอาหารก็ตาม 
ถ้าหากว่าหลงของ ๔ ประการ
ดังกล่าวมาแล้วนี้อยู่ 
ก็ยังข้ามภพข้ามชาติไม่ได้

หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต

Image by lumina_obscura from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



การพบเป็นเบื้องต้นของความพลัดพราก


การพบเป็นเบื้องต้นของความพลัดพราก 
สมบัติเป็นเบื้องต้นของวิบัติ 
ความเกิดเป็นเบื้องต้นของความตาย 
ถ้าดีใจในการพบ ในสมบัติและในความเกิด 
ก็ต้องเสียใจในเมื่อต้องพลัดพราก 
ในเมื่อวิบัติมาถึงและในความตาย 

อ.วศิน อินทสระ

Image by 422694 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ความสงบไปติดไม่ได้


ความสงบไปติดไม่ได้ 
ถ้าเข้าใจว่าความสงบเป็นเรา
เข้าใจว่าเราเป็นความสงบ
ก็เป็นก้อนอัตตาอยู่นี่เอง
ก้อนอัตตาก็เป็นตัวสมมุติอยู่
จะนึกว่าเราสงบ เราฟุ้งซ่าน
เราดี เราชั่ว เราสุข เราทุกข์
อันนี้ก็เป็นภพชาติอยู่อีก เป็นทุกข์อีก
ถ้าสุขหายไปก็กลายเป็นทุกข์
ถ้าความทุกข์หายไปก็กลายเป็นสุข
ก็ต้องวนเวียนไปนรก สวรรค์ อยู่ไม่หยุดยั้ง

หลวงปู่ชา สุภัทโท  

Image by Engin_Akyurt from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


อย่าหนีความจริงที่ใจตนเป็นอยู่


ถ้าอยากพ้นจากบาปอันร้าย 
อย่าหนีความจริงที่ใจตนเป็นอยู่ 
แค่รู้ว่าใจเรายังมีความเร่าร้อน
เพราะบาปอย่างไรบ้าง 
ตามวาระที่มันปรากฏมีขึ้น 
อิจฉา ตระหนี้ ขี้โกรธ อะไรต่างๆ 
ไม่ต้องไปสร้างกำแพงจนตนเดือดร้อนใจ 
ดิ้นรนปกปิด แค่รับรู้ว่าตน
ยังมีอาการใจร้ายๆ อย่างนั้นอยู่ 
พอทราบแล้วทิ้งเสีย 
รู้เฉยๆ ไม่ต้องเพ่งคิดตอกย้ำอะไร 
แล้วก็ทิ้ง เอาใจไปไว้กับสิ่งเป็นกุศลเสีย 
ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวบาปก็หาย
แต่ในขณะที่ใจยังร้าย
ก็พยายามสำรวมกายวาจา 
อย่าไปทำตามใจร้ายๆ นั้น

ครูบาไตรภพ วัดป่าโคกเจริญธรรม

Image by AJS1 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ไม่ติดสิ่งที่ประณีต เป็นผู้มีปัญญา


พระพุทธเจ้าทรงเห็นโทษว่า 
การอยู่ในปราสาทราชวังเป็นการติดทั้งนั้น 
เพราะในปราสาทราชวังมีพร้อม 
รูปสวยๆ เสียงไพเราะๆ กลิ่นหอมๆ 
สัมผัสที่นิ่มนวล รสอร่อยๆ 
เป็นของประณีตทั้งนั้น 
สิ่งที่ประณีตเป็นของติดง่ายแล้วก็หลุดยาก 
ถ้าผู้ใดสามารถจะหลุดจากสิ่งที่ประณีตได้ 
ไม่ติดสิ่งที่ประณีต
ผู้นั้นเป็นผู้มีปัญญา... 

พระอาจารย์จรัญ ทักขญาโณ

Image by ractapopulous from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


เกี่ยวนิดเดียวก็เป็นภพ


สัญญาอดีต อนาคต เป็น "โลก"
ปัจจุบัน เป็น "ธรรม"
สัญญาอะไรนิดเดียว
ก็ไม่เอาไม่ให้เกี่ยว 
เกี่ยวนิดเดียวก็เป็นภพ 
แล้วก็ต้อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีก

ท่านพ่อลี ธัมมธโร

Image by northm4nn from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ทุกข์ท่วมหัวก็ยังมองไม่เห็น


ทุกข์เกิดมากมายมหาศาล
เพราะเราไม่มีตาปัญญา
ที่จะมองเห็นทุกข์เท่านั้นเอง
เจ้าชายสิทธัตถะพอมีโอรสองค์แรก 
ท่านก็มองเห็นทุกข์ทันที แล้วท่านก็หนีเลย
แต่พวกเราบางคนได้ลูกคนหนึ่งก็ยังไม่รู้สึก 
ลูกสองก็ยังไม่รู้สึก ลูกสามก็ยังไม่รู้สึก 
ลูกสี่คนก็ยังไม่รู้สึก
ทุกข์ท่วมหัวก็ยังมองไม่เห็น 
แต่กว่าจะรู้สึกก็สายเสียแล้ว 
ก็เลยตามเลยไป ก็ตายแล้วตายอีกไม่รู้จบ

หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท

Image by patryklatko74 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ต้องมีเป้าหมายเพื่อออกจากทุกข์


การที่อบรมจิตว่า “มันไม่ใช่ของเรา”
เดี๋ยวก็ตายแล้วเนี่ยก็เพื่อให้มีสัมมาทิฏฐิ
เป็น “สัมมาทิฏฐิแนวโลกียะ”
เพื่อจะให้มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข
ทำบุญ ทำทาน ทำความดีเพื่อที่จะไปเกิดดี
เริ่มต้นก็ต้องเอาแนวเนี้ยไปก่อน
เพราะว่าปฏิบัติยังไม่ถึงขั้น
มันก็เลยเป็นไปเพื่อให้อยู่ในโลกได้
โลกเราก็จะได้มีความสุขอยู่กันแบบสงบร่มเย็น
มันก็เลยเป็นระบบศีลธรรมระบบจริยธรรมไป
.
แต่ถ้าหากว่ามันลึกเข้ามา มันต้องอีกระดับหนึ่งแล้วนะ
เป็น “สัมมาทิฏฐิแนวโลกุตตระ”
สัมมาทิฏฐิระดับนี้ต้อง “เห็น”
#เห็นพระไตรลักษณ์ #เห็นว่ามันไม่ใช่ของเรา
#ปฏิบัติจิตเพื่อให้จิตรู้ความจริงเท่านั้น
จึงจะเป็นทางออกเพราะมันออกจากกรรมได้
สัมมาทิฏฐิแนวโลกียะมันยังวนเวียนอยู่
ในการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในระบบของกรรม
แต่ระบบโลกุตตระเนี่ย “ออกจากกรรม”
อะไรโผล่มา... ก็ไม่เอา สละ ละ วาง
รู้แล้วก็เห็นมันเกิดเห็นมันดับนี่ใช่เลย
.
ทำอะไรก็ตามต้องมีเป้าหมายเพื่อออกจากทุกข์
รักษาศีล... ก็เพื่อออกจากทุกข์
เพื่อละกิเลสตัณหาอุปาทาน
ปฏิบัติ... ก็เพื่อออกจากทุกข์
ไม่ใช่ลูบๆ คลำๆ ปฏิบัติ
เพื่อให้มีบุญไปเวียนว่ายตายเกิด
.
พระอาจารย์ครรชิต สุทฺธิจิตโต

Image by EvgeniT from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



เชื้อโรคที่น่ากลัวที่สุด


พระธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ตรัสไว้ชอบแล้ว 
เชื้อโรคโควิด-19 เป็นเชื้อโรคทางกาย
ที่รักษาให้หายขาดได้ด้วยยา 
พวกเราทั้งหลายไม่น่าพากันตื่นตระหนกตกใจกันเลย
เชื้อโรคที่น่ากลัวที่สุด
ที่พระพุทธเจ้าให้พวกเรากลัวกัน คือ โลภ โกรธ หลง 
เป็นเชื้อโรคทางจิตใจที่ร้ายแรงที่สุด 
ที่มีการติดเชื้อกันอยู่ทั้งโลก 
มันมีอำนาจผลักดันให้พวกเราทั้งหลายไปเกิดไปตาย 
ไปเป็นเปรต เป็นผี ไม่มีที่สิ้นสุด 
ก็ไม่เห็นมีใครเกรงกลัว 
ทั้งๆ ที่มันก็รักษาให้หายขาดได้ด้วยธรรมโอสถ 
แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะศึกษาและรักษาให้หายขาดไปเลย

พระอาจารย์ชายแดน สีลสุทโธ

Image by JizZa from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ผู้ที่จะไปสู่พระนิพพาน


...ผู้ที่จะไปเป็นพรหมนั้นก็คือ
ผู้ที่มีความสามารถทำจิต
ให้เป็นสมาธิ หรือเป็นหนึ่ง
อยู่กับอารมณ์ของฌาน หรือสมาบัติ 
เมื่อตายก็ตายอยู่กับอารมณ์ของฌาน 
หรืออารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง 
ก็ได้ชื่อว่าเป็นพรหม 
ต้องได้ต้องเป็นอยู่ในมนุษย์ของเรานี้เสียก่อน 
ตายไปจึงจะได้
.
ส่วนผู้ที่จะไปสู่พระนิพพานนั้น
จะต้องทำใจของตน
ให้ว่างจากอารมณ์ทั้งภายในและภายนอก 
จนใจสงบจากอารมณ์ต่างๆ นี้ 
เรียกว่าเป็นพระนิพพาน
ต้องไปนิพพานแต่ยังเป็นมนุษย์อยู่นี่เสียก่อน 
ทุกอย่างตายไปจึงจะได้ไป 
ถ้าไม่ได้แต่ยังเป็นมนุษย์อยู่แล้ว 
ก็ไม่มีนิพพาน

หลวงปู่คูณ สิริจันโท

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



การให้อภัยเป็นวิปัสสนา


ทำบุญร้อยครั้ง สร้างวัดร้อยวัด 
ไม่เท่าการให้อภัยครั้งหนึ่ง
การให้อภัยใครได้ คือ การไม่เผาไฟตัวเราเอง
มันเป็นการคลายมานะ การถือจะน้อยลง
จึงเหนือกว่าการทำบุญทั้งปวง
แค่คลายสิ่งยึดถือ
เป็น วิปัสสนา ไปในตัวเลย 

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

Image by pieonane from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ผู้มั่นคงในพุทธศาสนานี้


การที่บุคคลได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจ
อยู่ในโลกอันนี้ ก็เพราะว่า 
ทำจิตให้เป็นกลางไม่ได้เลย
เป็นได้ก็ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นเอง 
สักหน่อยก็เอียงไปข้างรักบ้าง
เอียงไปข้างชังบ้าง ข้างโกรธบ้าง 
เอียงไปข้างเสียใจเศร้าโศกบ้าง หมู่นี้
ถ้าว่าใครสามารถทำใจให้เป็นกลางได้อย่างนี้
ผู้นั้นก็ย่อมเป็นผู้มั่นคงในพุทธศาสนานี้
หมายความว่า ไม่เสื่อมจากพุทธศาสนานี้ 
จะเป็นคฤหัสถ์ก็ตาม เป็นนักบวชก็ตาม
ก็จะทรงไว้ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าได้

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

Image by d_alexander33 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ชาวพุทธที่แท้


ชาวพุทธที่แท้จะต้องไปพ้นนิกาย
หรืออาจารย์ใดอาจารย์หนึ่งโดยเฉพาะ
จะต้องไม่ติดคำสอนของอาจารย์
แต่จะนำคำสอนของอาจารย์นั้นมา
เพื่อที่จะพัฒนาจิตใจของเรา
เราเคารพอาจารย์ แต่เราไม่ติด 
เราไม่ยึดถืออาจารย์
ถ้าเรายึดถือมันก็จะกลายเป็นกรอบ
ที่ครอบงำจิตใจของเราลงไปอีกชั้นหนึ่ง

หลวงพ่อโพธินันทะ

Image by DarkWorkX from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ศีล ก็คือ กายปกติ ใจปกติ


ในทางทฤษฎี 
เราเริ่มจากศีล สมาธิ ปัญญา 
แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้ว 
สมาธิและปัญญากลับเป็นเพียง 
อุปกรณ์ช่วยสนับสนุน ศีล
ศีล ก็คือ กายปกติ ใจปกติ 
ใจปกติ คือใจเป็นกลาง 
ไม่หวั่นไหวในสภาพทั้งปวง 
จิตเป็นกลางไม่หวั่นไหวในสภาพทั้งปวง 
เรียกว่า ‘จิตหลุดพ้น’

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Image by ThomasWolter from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ใจที่ฝึกมาดีแล้ว ไม่ได้ฝึกเพื่อที่จะไม่ให้กิเลสมันเกิด


ร่มไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อที่จะหยุดฝน
ร่มสร้างขึ้นมาเพื่อที่เรา
จะได้เดินไปท่ามกลางสายฝนได้ โดยไม่เปียก
ใจที่ฝึกมาดีแล้ว 
ไม่ได้ฝึกเพื่อที่จะไม่ให้กิเลสมันเกิด
แต่เราฝึกใจเพื่อที่จะเดินก้าวไป
ท่ามกลางกิเลสที่มองเห็นและมองไม่เห็น
ได้อย่างผู้ที่มีภูมิปัญญา 
ด้วยดวงตา ที่มองเห็นธรรม

พระอาจารย์มงคล ปภาโส

Image by Bru-nO from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ผลแห่งการปฏิบัติธรรม


การปฏิบัติธรรมนั้น 
ขาดสติสัมปชัญญะไม่ได้ 
เราต้องสำรวมระวังทางกาย 
ทางวาจา ให้เป็นปกติอยู่เสมอ
คือการควบคุมจิตใจของตนนั่นเอง
ใครมาติฉิน นินทา ว่าร้ายอย่างไร
ใจของเรามันก็ไม่ยึดไม่ถือ
เรียกว่าใจวางได้ หรือว่างได้จากสิ่งเหล่านั้น
ในขณะใดที่ใจของเราว่างจากอารมณ์ทั้งหลาย
นั่นแหละเรียกว่า เป็นผลแห่งการปฏิบัติธรรม

หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป

Image by krystianwin from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ผู้ที่ต้องการก้าวหน้าในธรรม อย่างแท้จริงจึงต้องกล้า


ชีวิตนี้มีเวลาจำกัด 
เราต้องใช้เวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด 
ผู้ที่ต้องการก้าวหน้าในธรรม
อย่างแท้จริงจึงต้องกล้า 
ไม่ใช่ว่าเพียงแต่ละสิ่งที่เป็นบาปเป็นกรรม 
แต่ต้องค่อยละสิ่งที่เป็นส่วนเกินในชีวิตด้วย 
เราต้องมุ่งต่อชีวิตที่เรียบง่าย 
ทุกวันนี้เราปล่อยให้ชีวิตของเรายุ่งเหยิงเหลือเกิน 
เมื่อชีวิตพัลวันทั้งวัน 
โอกาสที่เราจะซาบซึ้งในธรรมมันเป็นไปได้ยาก

พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ

Image by ID 5187396 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ศีลแท้


ศีลแท้
เกิดจากจิตคิดวิรัติ งดเว้นจากความชั่ว

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

หนังสือเทสโกวาท

Image by TIKOHO from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ


..พุทธพจน์จึงตรัสไว้ว่า 
“ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” 
คือโรคจิตไม่มีนั่นเอง 
โรคของใจไม่มีนั่นเอง 
โรคของกายนั้นรักษาอย่างไร
ก็หายชั่วครั้งชั่วคราว 
ทีนี้โรคใจนี่รักษาหาย..
เมื่อรักษาหายก็เลยว่า 
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐไง 
ทำไมเป็นลาภ 
ก็เพราะเหมือนเราได้ทรัพย์สมบัติอันหนึ่ง 
เขาเรียกอริยทรัพย์ 
ทรัพย์นี้เป็นผู้ที่สมบูรณ์มั่งคั่งด้วยอริยทรัพย์ 
การสมบูรณ์มั่งคั่งด้วยอริยทรัพย์นี้
คือผู้นั้นไม่ทุกข์ จึงเป็นลาภอันประเสริฐ

พระอาจารย์วิชัย กัมมสุทโธ


Image by selenee51 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ท่านจะไม่ทำอะไรเลยทั้งสิ้น


ทางของพุทธบริษัทคือ "การปล่อยวาง"
ไม่เสาะหาสิ่งใด 
ตัวปัญหานั้นคือ
การเกาะเกี่ยวอย่างไม่ลืมหูลืมตาอยู่กับกามภพ 
ท่านไม่จำเป็นต้องสลัดโลกทิ้ง

แต่เรียนรู้จากมัน เฝ้าดู 
และไม่หลงไปกับมัน 
ใช้ปัญญาของพระพุทธเจ้าเจาะทะลวงเข้าไป
โดยเฝ้าสำเหนียก เฝ้าสังเกต ตื่นอยู่ รู้ตัวอยู่ 
แล้วความโชติช่วงแห่งปัญญาก็จะปรากฏ 
ใช้ปัญญานี้ในเรื่องที่เกี่ยวกับกายของท่าน 
ความนึกคิดของท่าน ตลอดจนความรู้สึก 
ความทรงจำ และอารมณ์ต่าง ๆ 
ท่านจะประจักษ์แจ้ง 
จะยอมให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ผ่านพ้นไป 
และ ณ ที่นี่ เดี๋ยวนี้ ท่านจะไม่ทำอะไรเลยทั้งสิ้น
นอกจากมีปัญญาพร้อมอยู่ 
จากขณะหนึ่งไปสู่อีกขณะหนึ่ง


พระอาจารย์สุเมโธ
Image by darksouls1 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


การเดินทางไม่ใช่สิ่งที่ยาก


ชีวิตคือการเดินทาง
การเดินทางไม่ใช่สิ่งที่ยาก
การหยุดเดินทางต่างหากเป็นสิ่งที่ยาก

สมสุโขภิกขุ

Image by Rudimaes from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา