คิดเพื่อรู้เท่า คิดเพื่อรู้ทัน มันจะดับไปเอง



          ถ้าเรามีสติเราจะรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เราคิดอะไร ถ้าคิดแล้วเราตามความคิดไป ก็แปลว่าเรายังเป็นผู้หลงอยู่ คิดเพื่อรู้เท่า คิดเพื่อรู้ทัน มันจะดับไปเอง คิดก็รู้ ไม่คิดก็รู้ เกิดก็รู้ ดับก็รู้ ไม่ดับก็รู้ ผลสุดท้ายมันดับไปก็รู้ นี่เรียกว่า ภาวนาเป็นปัจจุบัน เอาปัจจุบันเป็นเครื่องพิสูจน์การรู้ บุญก็เกิดขึ้นมาเอง ใจมีความอบอุ่น สงบ เยือกเย็น น้ำตาเต็มเบ้า อัศจรรย์ เกิดปีติ กายเบาจิตเบา เห็นว่าเมื่อก่อนเราตะครุบจิตไปที่อื่น บัดนี้เมื่อเราบังคับจิตให้รู้ตนเอง ธรรมทั้งหลายก็ปรากฏตรงนี้ เป็นปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ

                                                                                            หลวงพ่อคำสด อรุโณ

ใจไม่ยึด ไม่ถือ คือผลแห่งการปฏิบัติ



ถ้าเขายกย่องเราว่าปฏิบัติดี 
เราต้องถามตัวของเราอีกว่า เราดีอย่างเขาพูดหรือไม่ 
ถ้าเขาว่าเราชั่ว เราก็ถามตัวของเราอีกว่า เราชั่วอย่างเขาว่าหรือไม่ 
ถ้าใจมันวางได้ มันไม่ยึด ไม่ถือ ไม่เอามาเป็นอารมณ์ 
จิตนั้นก็ได้รับความสบาย 
นั่นแหละเรียกว่าเป็นผลแห่งการปฏิบัติ

หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป