หัวใจของ “การปฏิบัติ” ที่สรุปย่อที่สุด
และควรถือว่าประเสริฐที่สุด
เกี่ยวกับ ความไม่ยึดมั่นถือมั่น
.
…. “ ถ้าท่านถูกชาวต่างประเทศถามว่า
จะปฏิบัติให้ถูกหัวใจพระพุทธศาสนานั้น
จะปฏิบัติอย่างไร?
ก็ตอบโดยอาศัยพระพุทธภาษิตอีกเหมือนกัน เราไม่ต้องเอาความคิดของเราไปตอบ.
…. พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสการปฏิบัติไว้
อย่างสรุปหมดและครบถ้วนนี้ว่า
เมื่อเห็นรูปด้วยตา ก็สักว่าดู,
เมื่อได้ฟังเสียงทางหูนี้ ก็สักว่าได้ยิน,
เมื่อได้กลิ่นทางจมูกนี้ ก็สักว่าได้ดม,
เมื่อได้ลิ้มรสทางลิ้นนี้ ก็สักว่าได้ชิม,
เมื่อได้สัมผัสทางผิวหนังผิวกายทั่วๆไปนี้
ก็สักว่าได้กระทบ,
และเมื่ออารมณ์ เช่นเรื่องเศร้า เป็นต้น
ได้เกิดขึ้นในจิตก็ให้เป็นสักว่ารู้
รู้ว่าอารมณ์เศร้า.
…. ขอทบทวนสำหรับท่านที่ยังไม่เคยฟังว่า
เห็นสักว่าดู เมื่อรูปมากระทบตา
ก็ดูให้รู้ว่าเป็นอย่างไร
และเราควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนั้นๆ
กับสิ่งที่ได้เห็นนี้ แต่อย่าไปเกิดรัก
หรือไปเกิดเกลียดเข้า
ถ้าไปเกิดรักก็อยากได้
ไปเกิดเกลียดก็อยากฆ่าให้ตาย
อย่างนี้มันก็มีผู้รักและผู้เกลียด
นี่เรียกว่า“ตัวตน”
ถ้าปล่อยไปในทางเป็นตัวตนอย่างนี้
ก็เป็นทุกข์และผิด.
…. ถ้าได้เห็นรูปแล้วให้มีสติปัญญา
มีสติสัมปชัญญะ อย่ามีกิเลสยึดถือ
มีสติปัญญารู้ว่าสิ่งที่เห็นนี้จะต้องทำอย่างไร
ก็ทำไปในทางที่ถูกที่ควร
หรือถ้าไม่ต้องทำอะไรก็เฉยเสีย
หากต้องการผลจากสิ่งนี้อย่างไร
ก็ทำไปด้วยสติ สัมปชัญญะ ด้วยสติปัญญา
อย่าปรุงเป็น“ตัวตน”ขึ้นมา
อย่างนี้ไม่มีความทุกข์ด้วย
และก็ได้ผลตามที่ต้องการด้วย.
…. นี่หลักปฏิบัติที่สรุปย่อที่สุด
และควรถือว่าประเสริฐที่สุด กล่าวคือสอนว่า
เห็นสักว่าเห็น ได้ยินสักว่าได้ยิน
ได้กลิ่นสักว่าได้กลิ่น ได้ลิ้มสักว่าได้ลิ้ม
ได้สัมผัสสักว่าได้สัมผัส
ได้รู้สึกในใจสักว่าได้รู้สึกในใจ
ให้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น
แล้วสติปัญญามาทันที
แล้วจัดการไปตามที่ถูกที่ควร
ไม่เกิดมี “ผู้รัก” หรือ “ผู้เกลียด” ขึ้น
ถ้าอย่างกระทำไปตามความรัก
หรือความเกลียด อย่างนี้เรียกว่า “ตัวตน”
จิตนี้วุ่นวายแล้ว ไม่ว่าง
ไม่ประกอบด้วยสติปัญญาเสียแล้ว.
…. นี้เป็นภาษิตที่ตรัสแก่ พระพาหิยะทารุจิยะ
มัชฌิมนิกาย แพร่หลายมาก
นี่คือสรุปสั้นๆว่า “ปฏิบัติอย่างไร?”
ท่านพุทธทาสภิกขุ
ที่มา : ธรรมบรรยาย หัวข้อเรื่อง “พระพุทธเจ้าสอนอะไร
หลักธรรมสำหรับนักศึกษาและปัญญาชน”
Cr. ธรรมะเพื่อทางพ้นทุกข์
โดย ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ
ภาพ Pinterest
ที่มา : เพจมนษิธาร Monsitharn
(บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)
11 ธ.ค.68