ให้รู้เท่าทัน ความชอบไม่ชอบจากความคิด



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เมื่อไม่รู้ชัดในจิต อะไรเกิดขึ้นที่จิต มันยึดติดทั้งนั้น




ใจไม่สงบก็เพียงแต่ใจไม่สงบ ใจสงบก็เพียงแต่ใจสงบเท่านั้น 
ต้องมีสติอยู่ในขณะนั้น ยินดียินร้ายไม่ได้ อย่าไปเสวย 
“สักแต่ว่า” ท่านสอนให้ “รู้”
ความไม่สงบ อะไรเป็นเหตุ 
ความไม่รู้แจ้งในจิตของเรา ท่านหมายถึง อวิชชา
เมื่อไม่รู้ชัดในจิต อะไรเกิดขึ้นที่จิต มันยึดติดทั้งนั้น.. 
ถ้าหากเห็นชัดในจิตแล้ว อะไรเกิดขึ้นในจิต ก็สักแต่ว่า 
ของเกิดมาดับ ก็มันเห็นชัดๆ สิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้วดับไป 
แล้วเราจะไปยึดสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นเราได้อย่างไร ?


หลวงปู่แบน ธนากโร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็ให้ดูโลกอยู่เสมอ




..สมเด็จพระบรมศาสดาจึงตรัสว่า 
“สูทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้อันน่าตระการตาดุจราชรถ 
อันพวกคนเขลาทั้งหลายขลุกอยู่หมกมุ่นอยู่ แต่ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่” 
ไม่ใช่ว่าท่านให้ไปดูโลกทั้งโลก หรือทั้งประเทศ ไม่ใช่อย่างนั้น 
ให้ดูจิตที่มันอาศัยโลกเป็นอยู่ 
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็ให้ดูโลกอยู่เสมอ
ให้ดูจิต พิจารณาถึงโลก เพราะโลกมันเกิดขึ้นอยู่ที่ใจ 
ความอยากเกิดที่ไหนโลกก็เกิดที่นั่น 
เพราะความอยากเป็นบ่อเกิดของโลก 
ถ้าดับความอยากก็คือดับโลก..


หลวงปู่ชา สุภัทโท

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ทำได้เพียงแค่รู้เท่าทันความคิด



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ไม่ใช่ปฏิบัติแล้ว “หมดทุกข์”




ทุกข์ ควร “กำหนดรู้”
ไม่ใช่ปฏิบัติแล้ว “หมดทุกข์”
“ทุกข์” หมดไปไม่เป็น
เมื่อกายกับจิตยังอาศัยกัน 
ทุกข์ของ “ขันธ์” ยังมีตลอดเวลา ...
แต่จิตที่จะไปติดข้อง ที่จะไปยึดถือ ไปลุ่มหลง 
ว่าทุกข์ให้โทษแก่เราอย่างนั้นอย่างนี้ 
ควรจะให้มันหายออกไป


พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เป้าหมายชีวิตทางธรรมคือพระนิพพาน ทุกคนสามารถถึงได้




เป้าหมายชีวิตทางโลกไม่มีใครเคยถึง
เพราะมันเปลี่ยนไปตามตัณหา..
เป้าหมายชีวิตทางธรรมคือพระนิพพาน..
ทุกคนสามารถถึงได้ ถ้าไม่ทิ้งความเพียร

พระอาจารย์มหาวิเชียร ชินวังโส


ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

รู้จักพักใจหาความสงบบ้าง



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ตัวชี้วัดถึงผลของการปฏิบัติธรรม คือการละอารมณ์ได้เร็วขึ้น



ตัวชี้วัดถึงผลของการปฏิบัติธรรม 
ไม่ใช่ความนิ่งสงบแบบตกภวังค์ หายวับไปไร้ตัวรู้ 
แต่หมายเอา สภาวะการละอารมณ์ได้เร็วขึ้นตามลำดับ 
จนกลายเป็นอย่างอัตโนมัติในที่สุด 
คือ จิตที่ไม่หลงแช่อยู่กับการปรุงแต่งต่างๆ 
จะอยู่กับปัจจุบันขณะ เช่น อยู่กับลมหายใจ ได้อย่างแนบแน่น 
สิ่งที่เข้ามากระทบ ไม่ใช่ไม่รับรู้ 
จิตมันรู้แต่ไม่สานต่อเป็นอารมณ์ ทุกข์จึงไม่ครอบงำจิต

ครูบาไตรภพ  วัดป่าโคกเจริญธรรม

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

จิตใจที่ไม่หวั่นไหวนั่นแหละคือสัมมาสมาธิ



..สัมมาสมาธิ มันสงบในขณะที่เรารับรู้ทางตา ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย 
แต่ใจไม่เอาสิ่งที่รับรู้มาปรุงแต่งเลย 
ใจสงบนิ่งไม่หวั่นไหว แม้จะมีภาพสวยๆ เสียงเพราะๆ 
มากระทบจิตใจก็ไม่หวั่นไหวเลย
แม้คำสรรเสริญหรือคำตำหนิติเตียนก็ตาม 
จิตก็ไม่หวั่นไหวไปกับอารมณ์นั้นๆ
จิตใจที่ไม่หวั่นไหวนั่นแหละคือสัมมาสมาธิ 
ถ้าเราสัมผัสได้กับสภาพจิตที่มันเบาบางลงของขบวนการความคิด
ไม่ว่าความฟุ้งซ่าน  ความลังเลสงสัย
หรือจิตที่มันไหลไปตามอารมณ์ มันลดน้อยลงไป
 เราก็จะเริ่มสัมผัสกับจิตที่ตั้งมั่นหรือสัมมาสมาธิได้ 
จิตที่ไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์ที่มากระทบทางตา 
ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จนเกิดปรีชาญาณ 
ปรีชาญาณก็จะทำหน้าที่ 
เรารู้จักปรีชาญาณก็ต่อเมื่อ
เราสามารถจะพัฒนาจิตของเรา
ให้ตั้งมั่นแล้วเป็นสัมมาสมาธิแล้ว

หลวงพ่อโพธินันทะ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

สุขใดจะเสมอเหมือนความไม่เหลือใจ



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ประโยชน์ของการปฏิบัติคือ เป็นอิสระจากการครอบงำของการคิด



ประโยชน์โดยทั่วไปของการปฏิบัติก็คือ 
การทำให้มีสติมากขึ้น อยู่กับปัจจุบันได้บ่อยครั้งขึ้น
แต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ 
"การได้เป็นอิสระจากการครอบงำของการคิด" 
และเชื่อว่าความคิดเหล่านั้นคือตัวของเรา
เมื่อไหร่ที่เราไม่ได้สร้างบุคคลขึ้นมา
เพื่อไปเชื่อความคิดต่างๆ 
คิดว่ามันคือเรา บุคคลหรือตัวตนก็จะไม่เกิด 
เราไม่ได้เป็นใครบางคน เราเป็นอิสระจากการเป็นคนคนหนึ่ง

พระอาจารย์สุมโนภิกขุ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เราให้โอกาสแก่ความหลงมาก




ความหลงเป็นของไม่จริง ความรู้สึกตัวเป็นของจริง
แต่เราอาจจะให้โอกาสแก่ความหลงมาก
การให้ความรู้สึกตัวมีน้อยเหลือเกิน
วันหนึ่งๆ เราอยู่กับความหลงมาก
หรืออยู่กับความรู้สึกตัวมาก ขอให้ตอบเอาเอง
ถ้าหากเราอยู่กับความหลงมาก 
ชีวิตก็ไม่มีหลัก มั่นคงขึ้นไม่ได้..


หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

มีสติ จะปลอดภัยจากทุกข์



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ชีวิตที่มีค่ามาก คือ ชีวิตที่เห็นความแปรปรวนในร่างกาย




นักปฏิบัติจะต้องรู้จักรูป-นาม รู้จักพระไตรลักษณ์ก่อน
จึงจะได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติธรรม
ชีวิตที่มีค่ามาก คือ ชีวิตที่เห็นความแปรปรวนในร่างกาย ในชีวิต
เป็นอนิจจังไม่เที่ยงแท้แน่นอน เห็นเป็นทุกข์ เห็นว่าไม่ใช่ของเรานั่นแหละ
เป็นความรู้ที่ยอดเยี่ยม คุ้มค่าในชีวิตที่เกิดมา
เป็นความรู้จริง ในสิ่งที่มีในตัวเราของเรา รู้จักความจริงของชีวิต
“ความจริงของชีวิต คือ รูปกับนาม
แล้วรูปกับนามก็เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"


หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

กิเลสมันไม่ใช่ของเรา มันเกิดขึ้นไม่นาน มันก็ดับ




ให้รู้ทันมัน เมื่อมันเกิดให้รู้ให้ทัน
เมื่อเขาด่าเรา ทำเราโกรธ
จริงๆ มันก็ตัวเขา ไม่ใช่เรา
จิตเรายังเป็นหนึ่ง ยังนิ่งเป็นหนึ่ง
ดังกับเขาตบมือข้างเดียว เราไม่เอามือไปรับ
มันก็ไม่ดัง มันก็ไม่ถึงเรา
กิเลสมันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของเรา
มันเกิดขึ้นไม่นาน มันก็ดับ

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

คนมีสุขก็อย่าเพลิน คนมีทุกข์ก็อย่าจม



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

นักภาวนาต้องมีเมตตาเป็นพื้นฐาน




นักภาวนาทุกคน ในที่สุดพื้นฐานลึกๆ ต้องมีเมตตาภาวนาเอาไว้
พอถึงจุดหนึ่ง ถ้าเราไม่มีเมตตา จิตมันจะร้อนนะ
โยมไปเจอคนไม่มีศีล คนไม่มีธรรม เขากักขฬะ..
เราต้องไปร่วม ไปอยู่กับบุคคลเหล่านี้ แล้วจะเอาองค์ไหนภาวนา
“ทน” ถามว่าทนถึงเมื่อไหร่
อาตมาใช้เมตตาอย่างเดียว..ปรารถนาให้เขามีความสุขแล้วกัน
เราทำได้เท่าไหร่ก็เท่ากับเป็นการยกจิตตัวเอง
ว่าเราอยู่เหนือภพเหนือกรรมวิบาก อันเป็นกรรมดำได้เท่านั้น
และมีใจสงสารเขาอีกนะ..


พระอาจารย์สมชาติ ธมฺมโชโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ตัวเราไปตั้งอัตตา ไว้ให้ทุกข์มันระดมยิง




คนเราที่ทุกข์ก็เพราะว่า
ตัวเราไปตั้งอัตตา
ไว้ให้ทุกข์มันระดมยิง 
ไปตั้งเป้าไว้ ถ้าเราไม่ตั้งเป้าไว้ 
มันยิงมาไม่ถูกอะไรหรอก 
เหมือนยิงผ่านควัน ยิงผ่านหมอก 
ยิ่งไปตั้งอัตตาใหญ่ กูใหญ่ กูเจ๋ง 
ใครข่มกูไม่ได้ ใครมาดีเหนือกูไม่ได้ 
นี่ยิ่งเดือดร้อนเลย เป็นทุกข์ 
คนคิดน่ะเป็นทุกข์เอง..

พระอาจารย์ชุมพล พลปญฺโญ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เราสามารถฝึกให้ทุกข์ทางกายไม่มีผลต่อใจ



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

การเจริญวิปัสสนาเป็นเพียงการระลึกรู้




การเจริญวิปัสสนาเป็นเพียงการระลึกรู้
สิ่งที่ปรากฏด้วยความปล่อยวาง ไม่ยินดียินร้าย 
มันจะฟุ้งก็ฟุ้ง ก็ไม่ได้ว่าอะไร
มันจะสงบก็สงบ ก็ไม่ได้ว่าอะไร
มันจะคิดก็คิด ก็ไม่ได้ว่าอะไร

ไม่ได้ไปบังคับความคิดให้หยุดคิด 
ถ้าปฏิบัติอย่างนี้มันก็จะเป็นปัจจัยให้จิตใจตั้งมั่น 
คลี่คลายจากความวุ่นวายของมันเอง


พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

อย่าให้สาระสำคัญกับสิ่งเป็นทุกข์




อย่าให้สาระสำคัญกับสิ่งเป็นทุกข์ 
อะไรบ้างคือสิ่งเป็นทุกข์ 
ทุกๆ สิ่งที่จิตคิด 
ทุกๆ จิตที่คิดสิ่งต่างๆ คือตัวทุกข์

สมสุโขภิกขุ


ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ปัญญา คือ รู้กายใจ ก็พอ



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

วางขันธ์ ๕ คือไม่มีเราเป็นเจ้าของ




คำว่าวางขันธ์ ๕ นี้ต้องเข้าใจว่า
ขันธ์ ๕ ทั้งหมด มันยังอยู่นะ
ทั้งรูปก็ยังอยู่ ทั้งเวทนาก็ยังอยู่
สัญญาก็ยังอยู่ สังขารก็ยังอยู่
วิญญาณก็ยังอยู่ แต่ว่ายังอยู่นั้นนะ
อยู่แบบเราปล่อยวาง
อยู่แบบปล่อย ก็คือ รู้เข้าใจว่า
ไม่มีเราเป็นเจ้าของ


ลุงหวีด บัวเผื่อน

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

การเข้าไปยึดถือเบญจขันธ์ เป็นความทุกข์ในโลก




ขันธ์ทั้ง ๕ เป็นภาระอันหนัก
บุคคลแหละเป็นผู้แบกภาระ
การเข้าไปยึดถือเบญจขันธ์
เป็นความทุกข์ในโลก
การปล่อยวางเบญจขันธ์ได้อยู่เป็นสุข
ผู้ละวางเบญจขันธ์อันหนัก
และไม่เข้าไปยึดถือภาระอันอื่นอีก
ถอนตัณหาพร้อมทั้งรากเสียได
หมดความอยาก จักนิพพาน

ขนฺธ. มู. ๑๗/๓๓.

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ถึงทุกข์กาย ก็ไม่ทุกข์ใจได้



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

แนวทางเห็นธรรมคือ การทำให้จิตไม่ยินดียินร้าย




แนวทางที่จะรู้ธรรม เห็นธรรมก็คือ
การทำให้จิตไม่ยินดียินร้าย
ดูจิตของเราไม่ให้ยินดี ยินร้ายอยู่เสมอ
กำลังของสติก็จะมากขึ้น 
ปัญญาก็จะมากขึ้น ศีลก็จะมากขึ้น
ทั้ง “ศีล สมาธิ ปัญญา”


พระอาจารย์อนันต์ อกิญจโน

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เห็นการเกิด-ดับภายใน เป็นผู้ไม่ประมาท




พระพุทธเจ้าตรัสว่า
เธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
ทำไมบอกว่าอย่าประมาท
อะไรคือ...อย่าประมาท?
ผู้ใดกลับมารู้สึกภายใน
เห็นการเกิด-ดับภายใน
ย่อมชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท
เดินตามรอยแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


พระอาจารย์ธัมมทีโป

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ความรู้สึกเต็มเปี่ยม มาจากการสละออก



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ใจที่ตั้งมั่น เป็นแต่ผู้รู้ ผู้ดู




ใจที่ตั้งมั่น
เป็นแต่ผู้รู้ ผู้ดู แต่ไม่ใช่ผู้ปรุง
ผู้รู้ รู้ความเป็นจริง ดูด้วยใจเป็นกลาง
ผู้ปรุงไม่เป็นกลาง สร้างความยินดียินร้าย
ทุกข์ใจทั้งหลายจึงเกิดขึ้นได้ เพราะใจไม่ตั้งมั่น


พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ความตั้งมั่นได้มาจากความไม่ตั้งมั่น




ฝึกดูความเปลี่ยนแปลง
อย่าไปเปลี่ยนแปลง ความเปลี่ยนแปลงเสียเอง
เฝ้าดูความปรุงแต่ง อย่าไปปรุงแต่งความปรุงแต่งเสียเอง
เฝ้ารู้สังเกตดูความคิด ไม่ใช่คิดว่าจะสังเกตเฝ้ารู้ตัวรู้
เฝ้ารู้พฤติกรรมของจิต ไม่ใช่ทำจิตให้เป็นพฤติกรรมเสียเอง

เฝ้าดูรู้ความทุกข์ว่าคือความทุกข์
ไม่ใช่ทุกข์ไปกับการเฝ้าดูเฝ้ารู้
อย่างนี้เป็นทุกข์ไปกับทุกข์ ไม่ใช่รู้ทุกข์ว่าคือทุกข์
ฝึกดูเฝ้ารู้ความอยาก
ไม่ใช่เกิดความอยาก ที่จะไม่ให้มีความอยาก
ทันทีที่รู้ว่าความอยากได้เกิดขึ้น
ในขณะนั้นไม่ได้เกิดความอยาก แต่เกิดความรู้
ฝึกดูเฝ้ารู้ความไม่ตั้งมั่นแห่งจิต
ไม่ใช่พยายามบังคับทำจิตให้ตั้งมั่น
ทันทีที่รู้ว่าจิตไม่ตั้งมั่น ในขณะนั้นจิตได้ตั้งมั่นเรียบร้อยแล้ว
เป็นจิตที่ประกอบไปด้วยสติสัมปชัญญะ และสัมมาสมาธิ
สรุป ความตั้งมั่นได้มาจากความไม่ตั้งมั่น

พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


คนในโลกนี้อยู่กับความหลงมาตลอด



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ถ้าชนะแล้วจิตจะว่านอนสอนง่าย




..ความไม่รู้ทำให้เราหลงยึดมั่นถือมั่นขันธ์ ๕ ว่าเป็นเรา เป็นของเรา..
ถ้ารู้แจ้งแล้วตัวเราก็ไม่มี 
สงครามนี้ ถ้าชนะเราก็เป็นไท ถ้าไม่ชนะก็เป็นทาสเขาต่อไป 
อย่างน่ารักเลย ไม่ดื้อ หายดื้อ 
จะทำอะไรตามที่เราสั่งให้ทำ บอกอย่างไรก็ทำอย่างนั้น 
บอกไม่ให้คิดมันก็ไม่คิด พ้นจากการปรุงแต่ง.. 
จิตนี้ควบคุมยากมันยิ่งกว่าลิง 
เมื่อมันตั้งมั่นแล้ว มันมั่งคงยิ่งกว่าหินผาเสียอีก 
เราค้นหาให้พบในตัวของเรานี้เอง..


พระอาจารย์จรัญ ทักขญาโณ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ให้รู้ตามความเป็นจริง ความรู้อื่นไม่สำคัญ




...การพิจารณาให้ถือเอารู้รูปกายตามความเป็นจริง 
รู้เวทนาตามความเป็นจริง รู้จิตตามความเป็นจริง 
ให้ยึดถือความรู้นี้เป็นหลัก ความรู้อย่างอื่นไม่สำคัญ 
ถึงจะเกิดอภิญญารู้ในเหตุผลต่างๆ ครั้งแรกๆ ก็อาจเป็นจริง 
แต่ถ้าเรายึดถือในสิ่งเหล่านี้ต่อไป 
ก็จะกลายเป็นเรื่องหลอกลวงเรา 
ท่านจึงห้ามไม่ให้เอาสิ่งนิมิตเป็นเรื่องสำคัญ


หลวงปู่คำดี ปภาโส

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

คนเราลืมเรียนรู้ตัวเอง



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ผู้ไม่ประมาท



บุคคลผู้ไม่พยาบาท 
มีสติในกาลทุกเมื่อ 
มีจิตตั้งมั่นในภายใน 
ศึกษาในความกำจัดอภิชฌาอยู่ 
 เราเรียกว่าเป็นผู้ไม่ประมาทฯ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓
อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต


ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

หยุดคิดหยุดปรุง สร้างสัมมาปัญญา




ในทางโลก ต้องคิดต้องปรุง เพื่อสร้างปัญญา
ในทางธรรม ต้องหยุดคิดหยุดปรุง
เพื่อสร้าง สัมมาปัญญา


สมสุโขภิกขุ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

รู้สึกตัว รักษาความเป็นตัวของตัวเองไว้




จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ที่อยู่ของจิตและใจ คือ สติและตัวรู้




จิตอยู่ที่ไหน ก็ให้มันอยู่ที่นั่น
พอจิตไม่ได้อยู่ในที่ของมันแล้ว จิตจะเป็นทุกข์
ใจอยู่ที่ไหน ก็ให้อยู่ที่นั่น เพราะเป็นที่ของมัน
ที่อยู่ของจิตและใจ คือ สติและตัวรู้
ที่ระลึกรู้อยู่เฉยๆ ไม่ตามไป
ไม่ออกไปนอกสติกับผู้รู้
รู้อยู่ที่ใจ เห็นอยู่ที่จิต ไม่ไปไหน
เรียกว่าที่ของมัน

ครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน 

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ถ้าเห็นความจริงของกายของใจได้ จะพ้นทุกข์




พวกเรามีหน้าที่ที่พระพุทธเจ้ามอบหมายให้ทุกคน
หน้าที่ประการแรก ทำประโยชน์ตนเอง ไม่ประมาทนะ
ทำประโยชน์ตนเองก็คือภาวนาเข้า มีสติ ฝึกให้มีสติขึ้นมา
ใครไม่มีสติ ก็ฝึกให้มีสติ
ใครไม่รู้จักสมาธิ ใจไม่เคยตั้งมั่น ก็ฝึกให้ใจตั้งมั่นขึ้นมา...
แล้วก็ตามรู้กายตามรู้ใจ ตามความเป็นจริง รู้อย่างที่เขาเป็น
ตามรู้อย่างนี้เรื่อยๆ จนเกิดปัญญา
ปัญญาในทางศาสนาพุทธ คือการเห็นความเป็นจริงของกายใจ
ปัญญาในทางศาสนาพุทธ ไม่ใช่เรื่องเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องอะไรหรอก
ถ้าเราเห็นความจริงของกายของใจได้ เราจะพ้นทุกข์ 
เพราะอะไร เพราะทุกข์อยู่ที่กาย ทุกข์อยู่ที่ใจ
ทุกข์ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น ทุกข์ไม่ได้อยู่ที่สิ่งอื่น
ทุกข์อยู่ในกาย ทุกข์อยู่ในใจนี้เอง
ดังนั้น ถ้าเรามีสติเรียนรู้กายเรียนรู้ใจมากๆ เข้า
วันหนึ่งจิตมันไม่ยึดกายยึดใจแล้ว ปล่อยวางไม่ยึดถือ
กายจะเป็นอย่างไร จะปรวนแปรจะแก่จะเจ็บจะตาย
จิตไม่ทุรนทุรายด้วยเลย
ฝึกไปถึงจุดหนึ่ง จิตจะไม่กระเพื่อม
จิตไม่ยึดถืออะไรเลย จะเป็นอันเดียวกับโลกธาตุ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา