เมื่อสิ่งใดมากระทบ จะรู้ว่า "มั่น"หรือ"คงที่" ได้...



เมื่อสิ่งใดมากระทบ จะรู้ว่า "มั่น"หรือ"คงที่" ได้
ต่อเมื่อความยินดี หรือ ไม่ยินดีไม่เกิดนั่นแหละ
ทำกรรมฐาน
ถ้าผู้ใดทำได้บริบูรณ์ กายและจิตจะไม่หวั่นไหว

หลวงปู่เจือ สุภโร

จิตที่ไม่หลงอารมณ์



ถ้ามาพิจารณาเห็นจิตเป็นอย่างหนึ่ง
อารมณ์เป็นอย่างหนึ่งแล้ว
ก็เรียกว่าเรามีความรู้สึกแล้ว ...
ไอ้ความรู้นั้นเป็นจิต 
สิ่งที่เข้ามากระทบนั้นเป็นอารมณ์ ...
เมื่อเรารู้ว่าจิตเป็นจิตแล้ว 
อารมณ์ก็เป็นอารมณ์แล้ว 
จิตเราก็ไม่หลงอารมณ์อีก

หลวงปู่ชา สุภัทโท

ไม่ต้องไปกำหนดละอะไร มันก็ดับไปเอง



...หัดพิจารณาสอนจิตให้รู้เท่าตามเป็นจริงว่า 
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา 
ย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา
ทั้งฝ่ายดีก็ดี ฝ่ายชั่วก็ดี 
ไม่มีอะไรที่จะเป็นแก่นเป็นสารอยู่ได้ ...
เมื่อมันเห็นแจ้งด้วยปัญญาอย่างนี้ 
ก็ไม่ได้ถือมั่นในเรื่องที่กระทบกระทั่งนั้น ...
เมื่อจิตไม่ยึดถือ ไม่หวั่นไหวตามแล้ว มันก็ดับไปเอง 
ไม่ต้องไปกำหนดละอะไร 
มันก็ดับไปเองแหละ... 

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

ตัวกลางๆ นั่นแหละคือตัวใจ...




เราไปหากันแต่อารมณ์ ไม่หาใจ เลยไม่รู้จักว่า มันแยกกันออก…
ใจไม่มีอะไรเลย ความคิดนึกปรุงแต่งไม่มี 
อดีตไม่มี อนาคตไม่มี มีความรู้สึกแต่ปัจจุบันเท่านั้น
ส่วนอารมณ์ เช่น ความรักลูก...รักสิ่งต่างๆ ทั้งหมด 
มันพาให้ไปคิดถึงเรื่องของคนที่เรารักนั้น ปรุงแต่งอดีตอนาคต... 
นั่นจึงเรียกว่าอารมณ์ มันไม่อยู่คงที่ ไม่อยู่ในที่เดียว ไม่ลงปัจจุบัน
ถ้าหากลงปัจจุบันก็หมดเรื่อง 
มันวางเรื่องต่างๆ ที่คิดนึกปรุงแต่งทั้งหมด
อารมณ์ก็ไม่มี อยู่เฉยๆ เป็นกลางๆ ไม่คิดนึก เข้าถึงใจเลย 
ตัวกลางๆ นั่นแหละคือตัวใจ...