ที่จริงทุกคนต้องวิ่งกลับไปหาทุกข์



          พระพุทธเจ้าท่านทรงเห็นทุกข์ ทำทุกรกิริยามากกว่าคนอื่น ท่านทำถึง ๖ ปี พอท่านเห็นทุกข์ ท่านบอกว่า ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นพ้นทุกข์ ธรรมนี้อยู่ที่ทุกข์ แต่ทุกวันนี้ทุกคนกำลังวิ่งหนีทุกข์ ทุกคนแสวงหาแต่ความสุข ที่จริงแล้วทุกคนต้องวิ่งกลับไปหาทุกข์ คือต้องไปหาปัญญา. . .

                                                                                          หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ

อย่าสนใจในจริยาของบุคคลอื่น



จงอย่าสนใจในจริยาของบุคคลอื่น 
เขาจะดีเขาจะเลวอย่างไร 
มันเป็นเรื่องของชาวบ้านชาวเมืองเขา 
อย่าใช้อารมณ์เข้าไปยุ่งไปเกี่ยว 
เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือ 
อัตตนา โจทยัตตานัง 
จงกล่าวโทษโจทย์
ความผิดตัวเองไว้เสมอ 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

"จิต" เปรียบเหมือน "คน" "ร่างกาย" เปรียบเหมือน "บ้าน"



"จิต" เปรียบเหมือน "คน"
"ร่างกาย" เปรียบเหมือน "บ้าน"
ถ้าจิตไปอยู่ที่อื่น ก็เท่ากับเรา
ไม่ได้อยู่ในบ้านของเรา
การไปอยู่ในบ้านของเค้า...
ย่อมไม่สุขสบายเหมือนกับ
เราอยู่ในบ้านของเรา

ท่านพ่อลี ธัมมธโร

เห็นสังขารไม่เที่ยง คือทางแห่งความบริสุทธิ์



เมื่อใด อริยสาวกพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า 
สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง 
เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์ 
นั่นเป็นทางแห่งความบริสุทธิ์

สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ ยทา ปญฺญาย ปสฺสติ
อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา


ขุ.ธ. มรรควรรค ข้อ ๓๐, มจร. ข้อ ๒๗๗

Link to George Hodan's photo

ถ้ามีตัวรู้ ก็ไม่มีตัวหลง




ชีวิตของเรา มี “ตัวรู้” กับ “ตัวหลง” เท่านั้น 
ถ้ามีตัวรู้ ก็ไม่มีตัวหลง 
ต้นตอ "อกุศล" ทั้งหลายทั้งปวง 
มันเกิดจาก ความหลง

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

เพราะมีกายนี้




ความโลภก็เพื่อเรา
ความโกรธก็เพื่อเรา
ความยินดีในกามก็เพื่อตัวตน
เพราะมีกายนี้
ถ้าละความยึดมั่นถือมั่นในกายตน
ไม่มีอะไรที่โลภ ไม่มีอะไรที่โกรธ...
ไม่มีกามทั้งหลายเกิดขึ้น
เพราะมันมีแต่จิต
สภาวะธรรมนี่มันเป็นอย่างนั้น

พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต

ในโลกนี้มีแต่ "ทุกข์” สุขไม่มี

ในโลกนี้มีแต่ "ทุกข์” สุขไม่มี
มีทุกข์สองอย่าง คือ
ทุกข์ปกปิด กับ ทุกข์ไม่ปกปิด 
เราได้บ้านใหม่ ดีอก ดีใจ 
เราว่าเป็นสุข ที่แท้มันเป็นทุกข์ปกปิดน่ะ 
เราได้อยู่อาศัยสบายจริง 
แต่ว่าเราก็ต้องดูแล รักษาห่วงแหนต่างๆ 
นี่ ในโลกมีแต่ทุกข์ทั้งนั้น สุขไม่มี 
เรา “หลง” ต่างหาก 
ว่าเราเป็นสุขอย่างนั้น เป็นสุขอย่างนี้ 
สุข มัน “สุขสมมุติ” มันไม่ใช่สุขแท้ 
ถ้าสุขแท้ มันอยู่ที่ใจของเรา 
แต่เราไม่เห็นหรอก

หลวงปู่เจือ สุภโร

เพียงแต่รู้ เฝ้าดู เฝ้าเห็น



ขอให้ตั้งใจให้ดี มีสติทุกเมื่อ ทุกขณะจิต 
เพียงแต่รู้ เฝ้าดู เฝ้าเห็น 
กายกับใจเคลื่อนไหวไปตามเหตุปัจจัย 
เป็นเพียงรูปธรรมนามธรรมเท่านั้น 
เป็นเพียงก้อนทุกข์ ก้อนธาตุ เท่านั้น 
ไม่ควรไปให้ราคาตัวเอง
และวัตถุธาตุสิ่งใด 
ไม่ควรมั่นหมายผูกพันกับสิ่งใดในโลก

ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร

กามทั้งหลายมีทุกข์มาก มีความสุขน้อย



กามทั้งหลายมีทุกข์มาก มีความสุขน้อย 
ทุกข์จะน้อยกว่ากามไปไม่มี 
ผู้ใดชอบเสพกาม ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรก

หลวงปู่หลุย จันทสาโร

ละรูปที่น่ารัก ละมูลเหตุแห่งทุกข์




เทวดาและมนุษย์จำนวนมาก
พากันเพลิดเพลินยึดติดในรูปที่น่ารัก
จึงระทมทุกข์ เสื่อมหมดสิ้น
ตกอยู่ในอำนาจของมัจจุราช
แต่คนเหล่าใดไม่ประมาท
ทั้งกลางวันและกลางคืน...
ละรูปที่น่ารักได้
คนเหล่านั้นย่อมขุดขึ้นได้ ซึ่งมูลเหตุแห่งทุกข์
ที่เป็นเหยื่อของมัจจุราช และที่ล่วงพ้นไปยาก

พุทธอุทาน

อานุภาพของจิตปัจจุบัน



พอเราจับจิตให้อยู่ มันจะอยู่กับปัจจุบันอย่างเดียว 
ไม่ได้วอกแวก ถึงเรื่องอดีตอนาคต 
นั่นแหละ เราจะใช้มันทำอะไรได้ตามที่เราต้องการ

ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก

รู้สึกตัวคือการปฏิบัติธรรม



เวลามันหลง ระลึกได้ขึ้นมา....รู้สึกตัว
เวลามันโกรธ ระลึกได้ขึ้นมา...รู้สึกตัว
เวลามันทุกข์ ระลึกได้ขึ้นมา....รู้สึกตัว
เวลามันกลัว ระลึกได้ขึ้นมา....รู้สึกตัว
รู้สึกตัวระลึกได้อย่างนี้ คือ การปฎิบัติธรรม

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

ให้เห็นโทษของอารมณ์




ให้เห็นโทษของอารมณ์ที่เกิดจากอายตนะหก
ซึ่งมันแส่ส่ายไปในโลกธรรมทั้งแปด
เป็นทุกข์เดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด 
แล้วยอมสละปล่อยวาง
แล้วย้อนเข้ามาอยู่ที่จิตแห่งเดียว

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ไม่ต้องรู้อะไรมาก...



ไม่ต้องรู้อะไรมาก รู้ภายในน้อยๆ
รู้ตามคำสอนน้อยๆ มันก็กว้างออกมาได้
รู้ทุกขัง รู้อนิจจัง รู้อนัตตา รู้แค่นี้ก็ใช้ได้แล้ว

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

ธรรมะหมายถึง ของมีอยู่เป็นอยู่ในโลกนี้ทั้งหมด



          คำว่า ธรรมะ ในที่นี้ หมายถึง ของมีอยู่เป็นอยู่ในโลกนี้ทั้งหมด มันเป็นอยู่อย่างนั้น มีอยู่อย่างนั้น เรียกว่า ธรรมะ คำว่า เห็นธรรมะ คือเห็นจริงตามของที่มันเป็นเองนั่นเอง มันเป็นอยู่อย่างไร ให้เข้าใจว่า มันเป็นอยู่อย่างนั้น เรียกว่าเห็นสภาพของธรรมะ ตรงนี้แหละเป็นของสําคัญ เห็นได้ยาก เพราะคนเรานั้นเห็นอะไร ดูอะไร ก็อยากจะดูของใหม่เรื่อยไป ของเก่าเลยลืมเสีย มันก็เลยไม่ชัดไม่เจนขึ้นมา หากันไปเถิด หาธรรมะ หาเท่าไรก็หาไป ถ้าไม่เห็นสภาพตามเป็นจริงแล้วก็ไม่เห็นธรรมะอยู่นั่นเอง

                                                                                                  หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ฟังแต่เสียง เอาหูฟัง ใจไม่ฟัง



เวลาฟังธรรม ถ้าเราฟังแต่เสียง
เอาโสต เอาหูฟัง ใจไม่ฟัง ก็ไม่เข้าใจตลอดกาล
การที่เราฟังธรรมแต่เล็กแต่น้อย
จนเฒ่าจนแก่ก็ยังไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน
คือเราฟังแต่เสียง เอาหูฟัง ใจไม่ฟัง

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

ความกล้าที่แท้จริง




ยามเมื่อชีวิตพบกับความทุกข์ทรมาน
พ่ายแพ้ต่อโชคชะตาของชีวิตอย่างยับเยิน
ความกล้าที่แท้จริง ไม่ใช่กล้าพลีชีวิต
แต่ต้องกล้าที่จะอยู่ต่อไป

พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี

การทำให้มาก



การทำให้มากนั้น 
มิใช่หมายแต่การเดินจงกรมเท่านั้น 
ให้มีสติหรือพิจารณา 
ในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ 
ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด 
ก็ให้มีสติรอบคอบ ในกาลอยู่เสมอ
จึงจะชื่อว่าทำให้มาก..

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

มีสติทำให้เกิดปัญญา...



มีสติทำให้เกิดปัญญา มีศรัทธาทำให้เกิดความเพียร

ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก

ศีลก็คือ กายปกติ ใจปกติ



ศีลก็คือ กายปกติ ใจปกติ 
ใจปกติคือใจเป็นกลาง
ไม่หวั่นไหวในสภาพทั้งปวง 
จิตเป็นกลาง ไม่หวั่นไหว
ในสภาพทั้งปวง
เรียกว่า จิตหลุดพ้น

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

ไม่ตามความโกรธ ความโลภ จะดับเอง



ความโกรธ ความโลภ ถ้ามันยังมีอยู่ 
เราไม่ไปตามมัน  มันก็ดับของมันเอง...
ความโกรธมีอยู่แต่ไม่เอา 
คิดไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร 
มีแต่เศร้าหมองเปล่าๆ  
ไม่ไปตามมัน 
มันเกิดแล้วมันก็ดับ

หลวงปู่เพียร วิริโย

ธรรมะมีอยู่ในตัวทุกคน



          พวกเราปฏิบัติธรรมะ รู้เรื่องธรรมะ พากันคิดว่าธรรมะจะมีอยู่แต่ตามวัดตามวา ตามครูบาอาจารย์ไปเท่านั้น คิดว่าตัวเองไม่มีธรรมะ ธรรมะจริงๆ แล้ว จะต้องมีอยู่ประจำตัวของเราเองทุกๆ คน มีครบเสมอกันไปหมด ไม่ขาดไม่เกิน มีพอดีๆ กันทั้งหมด พวกเราขาดการศึกษาหาความรู้จากตัวของตัวเองเท่านั้น เราจึงไม่รู้ไม่เห็นธรรมะ

                                                                                           หลวงปู่คูณ สิริจันโท

ผู้ใดเห็นตน จะพ้นโลก...



ผู้ใดเห็นตน จะพ้นโลก ผู้ใดเห็นโศก จะพ้นรัก
ผู้ใดเห็นมรรค จะได้ผล คืออริยบุคคลในพุทธศาสนา..

หลวงปู่ขาว อนาลโย

บริกรรมบทไหนให้ผลเหมือนกัน



ใครจะบริกรรมภาวนากรรมฐานบทไหนอย่างไร
เมื่อสภาวะจิตสงบสู่ความเป็นสมาธิ ย่อมมีลักษณะเดียวกันหมด
เพราะฉะนั้น เราอย่าเอาตำรามาค้านกัน
ให้เอาสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
จากการปฏิบัติมาเปรียบเทียบกัน
จึงจะลงเอยกันได้

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

ทุกข์ไม่รู้จบเพราะมัวแต่แก้ภายนอก




นั่นก็ทุกข์ นี่ก็ทุกข์ มันไม่รู้จบ เหตุเพราะมัวเมาแก้ไขแต่ภายนอก
ภายในทำไมไม่แก้ไขบ้าง คิดอ่านบ้าง เสาะหาหนทางบ้าง 
แก้ไขใจของตนบ้าง เพราะใจภายในนี้มันจบลงได้

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ

โลกนี้ไม่มีความสุขให้แก่ใครเลย



          ผู้ใดที่คิดว่าเกิดมาแล้วจะต้องมีความสุข อย่างนั้นอย่างนี้ คนผู้นั้นจะต้องผิดหวังอย่างที่สุด เพราะความจริงแล้ว ในโลกนี้เขาไม่มีความสุขให้แก่ใครเลย จึงให้ปล่อยปลดเปลื้องเครื่องรกรุงรังในหัวใจเสียให้หมด ปล่อยเสีย วางเสีย จะได้เบาสบายขึ้นบ้าง

                                                                                                 หลวงปู่แบน ธนากโร

ลมหายใจพาเข้าถึงความสงบได้



ลมหายใจไม่เพียงช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ได้เท่านั้น
หากยังสามารถพาเราเข้าถึงความสงบได้ด้วย
ทุกครั้งที่เราหายใจเข้า มิใช่ออกซิเจนเท่านั้นที่ถูกลำเลียงไปเลี้ยงร่างกาย
หากเราวางใจเป็น ลมหายใจเข้ายังนำความสงบเย็นไปบำรุงจิตใจเราด้วย
ขณะเดียวกันลมหายใจออกสามารถระบายความหม่นหมองขึ้งเครียด
ออกไปจากใจของเราได้อีกต่างหาก
แต่ความจริงดังกล่าวมักถูกมองข้ามไป
คนส่วนใหญ่จึงหายใจแบบทิ้งๆ ขว้างๆ อย่างน่าเสียดาย

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

ต้องรู้ลมอยู่เสมอ มันก็ครองสุขได้



ต้องรู้ลมอยู่เสมอ มันก็ครองสุขได้ 
จะเอามนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ 
มันก็อยู่ที่ลมนี่แหละ 
ถ้ามัวแต่สนุก เพลิดเพลินจนลืมลม ก็จะหมดสุขได้ 
ฉะนั้นต้องรู้จักสังเกตลมเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา 
ต้องสนใจเขาบ้างว่า เขาอยู่อย่างไร 
อย่าปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว 
เมื่อรู้จักความเป็นอยู่ของเขาแล้ว 
ทีนี้แหละจะเอาอะไรก็ได้ทุกอย่าง 
กายก็เบา ใจก็เบา จะสุขอยู่ตลอดเวลา

 ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก

ดูกายดูใจ...



ดูกายดูใจนั่นล่ะ 
ดูให้มันชัด 
พระพุทธเจ้าท่านสำเร็จได้
เพราะดูกายดูใจตัวเอง 
ไม่ได้ดูที่อื่น

หลวงปู่เพียร วิริโย

หลักการเจริญวิปัสสนา คือรู้กายใจในปัจจุบัน



หลักในการเจริญวิปัสสนานั้น 
สรุปอย่างง่ายๆ ก็คือ 
การมีสติสัมปชัญญะ รู้อยู่ที่กายใจในปัจจุบัน... 
วิปัสสนา คือ การรู้แจ้งในตนเอง
ดังนั้น จึงต้องดูที่ตัวเอง ศึกษาที่ตัวเอง
ให้เห็นตามความเป็นจริง

พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี

ใจของชนเหล่าใดยินดีแล้วในภาวนา



          ใจของชนเหล่าใดยินดีแล้วในภาวนา ทั้งกลางวันและกลางคืน ชนเหล่านั้นชื่อว่าเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ ตื่นดีแล้วในกาลทุกเมื่อ

                                                                                                         (๒๕/๓๑) #ธรรมะ

การตายคือการแก้ผ้าขี้ริ้วทิ้งจากตัว



          การตายนั้น...นักปราชญ์บัณฑิตท่านเห็นเหมือนกับว่า เป็นการแก้ผ้าขี้ริ้วออกโยนทิ้งไปจากตัวเท่านั้น จิตก็เหมือนกับตัวคน กายก็เหมือนกับเสื้อผ้า ไม่เห็นว่าเป็นการสลักสำคัญอะไรเลย แต่พวกเรานี่สิกลัวนัก พอเห็นเสื้อผ้าขาดนิดขาดหน่อย ก็รีบหาอะไรมาปะมาเย็บให้มันติดต่อเข้าไปใหม่ ยิ่งปะยิ่งเย็บ มันก็ยิ่งหนา ยิ่งหนาก็ยิ่งอุ่น ยิ่งอุ่นก็ยิ่งติด ยิ่งติดก็ยิ่งหลง ผลที่สุดเลยไปไหนไม่รอด

                                                                                               ท่านพ่อลี ธัมมธโร

การอิ่มธรรม...




การที่เราหันจิตใจมารักษาศีลกินธรรมนี้
จงมีความตั้งใจให้จริง เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้านี้เป็นทิพย์
ไม่มีความอิ่มฉันใดจะเสมอเหมือน การอิ่มธรรม

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ต้องภาวนาทั้งยามสุขและทุกข์



          การปฏิบัติภาวนานั้น เราจะเลือกปฏิบัติ เฉพาะเวลาสุขนั้นไม่ได้ เราต้องปฏิบัติภาวนาให้ได้ ทั้งในเวลาสุข และทุกข์

                                                                                                          หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ

การปฏิบัติสมาธิคือมีสติตลอดเวลา



          การปฏิบัติสมาธิ เอากันอย่างนี้ ยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด ให้มีสติอยู่ตลอดเวลา ทุกคนได้ฝึกสมาธิ มาตามธรรมชาติแล้ว ตั้งแต่เริ่มรู้เดียงสามา ทีนี้เรามาเริ่มฝึกใหม่ นี่เป็นการเสริมของเก่าที่มีอยู่แล้วเท่านั้น.. 

                                                                                               หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

ถ้าอยากเห็นธรรม อย่าส่งจิตออกนอกกาย




ถ้าพวกเราอยากรู้ธรรมเห็นธรรมแล้ว
ไม่ต้องส่งจิตออกไปนอกกาย คอยดูอยู่แต่ในกายเท่านั้น
อย่าไปคิดปรุงแต่งเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น
นั่งคอยดู นอนดู เดินดู ยืนดู แต่เฉพาะกายของตัวเอง
ธรรมจะเกิดขึ้นมา ให้เราได้รู้ได้เห็นตามความเป็นจริงทุกประการ
โดยจะเกิด...สลับสับเปลี่ยนกันไปมาอยู่เรื่อยๆ
เดี๋ยวทุกข์เกิดขึ้นมา แล้วก็ดับไปเอง เดี๋ยวสุขเกิดขึ้นมา แล้วก็ดับไปเอง
เดี๋ยวก็เกิดอุเบกขาขึ้นมา แล้วก็ดับไปเอง หมุนเวียนกันไปมาอยู่ตลอด
เราผู้รู้ ก็คอยดูไป โดยไม่ต้องไปปรุงแต่งให้ลำบาก
ธรรมชาติ จะเกิดขึ้นมาให้เราดูเอง

หลวงปู่คูณ สิริจันโท

ผู้ปฏิบัติธรรมหามรรคผล...



ผู้ปฏิบัติธรรมหามรรคผล
ไม่เหมือนผู้ลืมตน วิ่งไปตามโลก
ผู้ปฏิบัติธรรมหามรรคผล มีโชค
ผู้วิ่งไปตามโลก ขาดทุน.........

หลวงปู่สาย เขมธัมโม

การฝึกหัดจิตใจเป็นการสะสมกำลังใจ



          ความจริงการฝึกหัดจิตใจนี้ เป็นการสะสมกำลังใจเพื่อเหตุการณ์ของทุกคน บุคคลที่สะสมกำลังจิตใจของตนไว้ได้ ย่อมอยู่เหนืออารมณ์บางชนิดที่จะก่อให้เกิดทุกข์ เมื่อจิตของตนอยู่เหนืออารมณ์ได้ จะประกอบกิจการใดๆ ในทางโลกและทางธรรมก็จะเป็นไปด้วยดี

                                                                                                   ท่านพ่อลี ธัมมธโร

เรากลัวอันตรายจากกิเลสภายในใจตนเองเท่านั้น



อันตรายภายนอกนั้นเราไม่กลัว 
เรากลัวอันตรายจากกิเลส
ภายในใจของตนเองเท่านั้น 
ใจคนเราที่ฟุ้งซ่านหงอยเหงา
เกิดจากกิเลสสามกอง
ภายในใจของตนเองบั่นทอน 
ใจฟุ้งซ่านไม่ได้เกิดจาก
สิ่งภายนอก สัตว์ บุคคล 
มันเกิดจากใจเราเข้าไปยึดถือ
ให้เป็นธรรมารมณ์ทั้งนั้น

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ถามหาตนเองดีกว่า



จะถามไปทำไม
เรื่องของคนอื่น
ครูบาอาจารย์รูปนั้นองค์นั้น ที่นั้น 
ท่านจะอยู่หรือจะไปก็เป็นเรื่องของท่าน
ถามตนเอง ถามหาตนเองมิดีกว่าหรือ
ท่านรู้อย่างไร
ท่านดีอย่างไร
มีความรู้ความสามารถในขั้นใดชั้นใด
ก็ถวายให้เป็นเรื่องของท่านไป

หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ 

ดูมันเฉยๆ



อย่านึกทำใจให้เป็นสุข อย่านึกทำใจเป็นทุกข์
เห็นเป็นทุกข์ก็ไม่ต้อง"ละ"มัน
เห็นเป็นสุขก็ไม่ต้องประคองให้มันอยู่
"ดูมันเฉยๆ"

หลวงปู่เจือ สุภโร

ความดีนั้น เราต้องทำอยู่เสมอให้เป็นที่อยู่ของจิต



          ความดีนั้น เราต้องทำอยู่เสมอให้เป็นที่อยู่ของจิต เป็นอารมณ์ของจิต ให้เป็นมรรค คือ ทางดำเนินไปของจิต มันจึงจะเห็นผลของความดี ไม่ใช่เวลาใกล้ตายจึงจะนิมนต์พระไปให้ศีล ให้ไปบอกพุทโธ หรือตายไป แล้วให้ไปรับศีล เช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดทั้งหมด

                                                                                               หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

ภาวนาให้รู้ลมอย่างเดียว



          ในการนั่งภาวนานี้ ถึงแม้เราจะไม่มีความรู้อะไรเลย ก็ให้รู้แต่เพียงว่า ลมเข้าเราก็รู้ ลมออกเราก็รู้ ลมยาวเราก็รู้ ลมสั้นเราก็รู้ ลมสบายเราก็รู้ หรือลมไม่สบายเราก็รู้ เท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้ ส่วน สัญญา ในเรื่องต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในใจของเรานั้นก็ให้ปัดทิ้งเสีย ทั้งดีและชั่ว ทั้งอดีต อนาคต ไม่ให้นำมายุ่งเกี่ยว และก็ไม่ต้องตามไปแก้ไข เมื่อสัญญาผ่านเข้ามา ก็ปล่อยให้ผ่านไปตามเรื่องของมัน ความรู้ของเราก็ให้เฉยอยู่กับปัจจุบันเพียงอย่างเดียว

                                                                                                     ท่านพ่อลี ธัมมธโร

จิตมีแต่รู้ล้วนๆ



          จิตโดยหลักธรรมชาติไม่มีรักมีชังมีเกลียดมีโกรธ มีแต่รู้ล้วนๆ ที่รักที่ชังนั้นเป็นสิ่งที่แฝงขึ้นกับจิต ความแฝงนั้นท่านให้ชื่อว่าสิ่งที่ปลอม ไม่ใช่ของจริงคือจิตแท้

                                                                                    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

หากไม่ได้พิจารณาความทุกข์ให้ดี ก็ไม่อาจจะพบความสุข



          หากไม่ได้พิจารณาความทุกข์ให้ดีแล้ว ก็ไม่อาจจะพบความสุขได้เลย... ความทุกข์ที่ควรพิจารณานั่นก็คือ ความสุขทั้งหลายทางโลก เพราะไม่ว่าอย่างไรสักวันก็ต้องสูญเสียไปแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ทั้งทรัพย์สิน เงินทอง อำนาจ ชื่อเสียง เกียรติยศ หรือแม้แต่ร่างกายตัวเองก็ตาม... ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่า ให้ทิ้งเสียทุกอย่าง เพียงแต่ต้องให้ฝึกสติปัญญาให้สามารถรู้เท่าทันอาการต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอไว้ หากเกิดความทุกข์ขึ้นมา จะได้มีปัญญามากพอที่จะสามารถปล่อยวางได้

                                                                                           หลวงปู่บัวพา ปญฺญาภาโส

ทุกๆ วันให้พยายามมีสติดูจิต




...เราทุกคนจะต้องพยายามที่จะรู้จักต่อสู้กับกิเลสภายในจิตใจของเรา
ในทุกๆ วันให้พยายามที่จะมีสติดูจิตใจของเรา
และปรารภความเพียรไปทุกๆ วัน ไม่ท้อถอย 
สำรวมจิตใจของเรานั้นอยู่เสมอๆ 
ถ้าเราทุกคนทำความเพียรไปเช่นนี้...
เราก็สามารถที่จะประสบกับความสำเร็จในการประพฤติการปฏิบัติธรรมได้

พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต

บุคคลที่มีสติ เวลาฝึกสมาธิ จิตจะรวมสงบได้ง่าย



          บุคคลที่มีสติอยู่เสมอ เวลาฝึกสมาธิ จิตจะรวมสงบได้ง่าย เพราะความฟุ้งซ่านมีน้อยเป็นปรกติอยู่แล้ว เมื่อจิตรวมสงบง่าย การปฏิบัติก็ไม่ต้องลำบากมาก เป็นไปแบบสบายๆ แบบนี้เข้าท่าดีมั้ยล่ะ ไม่อย่างนั้นก็ต้องมาฝึกกันแบบเข้มข้น ทรมานต่างๆ นานา เพื่อฝึกให้จิตสงบ พระบางองค์ถึงกับให้อดอาหาร ๓ วันบ้าง อดนอน ๕ วันบ้าง แบบนี้ไหวกันมั้ย ถ้าไม่อยากทำถึงขนาดนั้นก็ต้องฝึกกันให้บ่อยๆ รีบทำกันเสียตั้งแต่วันนี้ จะได้ดีในภายภาคหน้า

                                                                                                    หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ

ใจโง่กว่ากาย ชอบหาทุกข์ใส่ตัว



เมื่อมือถูกไฟลวก มือจะชักออก 
นี่คือความฉลาดของ “กาย” 
แต่เมื่อโกรธ “ใจ” จะกอดความโกรธเอาไว้ 
ใครด่าเรา เราจะจำได้
และนึกถึงเขาบ่อยๆ 
ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ 
มองในแง่นี้จะเห็นว่า
ใจโง่กว่ากาย ชอบหาทุกข์ใส่ตัว

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

มีสติจะเห็นธรรม



ถ้ามีสติกำหนดเข้ามา จ ะ รู้ ทุ ก เ ว ล า
ว่าจิตของเรามีราคะไหม หรือหายแล้วไม่มี...
ดูโทสะ มีอยู่หรือหายโทสะแล้ว 
ดูโมหะ ความโง่เขลาความหลง 
ยังมีอยู่ก็จะรู้ หรือจิตของเรา
มันหายโทสะหายโมหะแล้วก็จะรู้ 
พระพุทธองค์จึงให้พิจารณาเข้ามาให้เห็น 
เห็นอันนี้เรียกว่าเห็นธรรม

หลวงปู่ขาว อนาลโย

มีสติรู้กาย ปัญญาจะค่อยๆ เกิดขึ้น



พระพุทธเจ้าสอนพระมหากัสสปะ ว่า
อย่าละสติไปจากกาย ให้มีสติรู้กายไว้เป็นนิจ
พระมหากัสสปะทำอย่างนี้อยู่ ๗ วัน 
สำเร็จอรหันต์...
สะติ สัพพัตถะ ปัตติยา ...
สติจำต้องปรารถนาทุกโอกาส
มีสติรู้กายไว้เนืองๆ ปัญญามันจะค่อยๆ เกิดขึ้น
โดยไม่รู้สึกตัว

หลวงปู่เจือ สุภโร