เป็นการทำที่เกาะให้กิเลส


"ดูก่อน สุมนะ ความยึดถือว่าเรา ว่าของเรา
เป็นการทำที่เกาะให้กิเลส
การทำลายความยึดถือว่าเรา ว่าของเรา
เป็นการทำลายที่เกาะของกิเลส
เหมือนทำลายที่เกาะของนก
เมื่อนกไม่มีที่เกาะที่กุม ไม่มีที่พักผ่อน
มันก็จะบินจนเหนื่อยตายไปเอง
ดูก่อน สุมนะ พระผู้มีพระภาค
ทรงแสดงไว้แล้วว่า
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์
ตา หู จมูก ลิ้น กายใจที่บุคคล
เข้าไปยึดถือว่าเป็นตัวตนของเรานื่เอง
เป็นที่เกาะแห่งตัณหาอุปาทาน
เมื่อตัณหาอุปาทานจะเกิด
ย่อมเกิดเพราะอาศัยตัวตน
ที่เราเข้าไปยึดถือนี้
"ดูก่อน สุมนะ โดยความเป็นจริงแล้ว
ตัวตนนั้นไม่มี แต่พระผู้มีพระภาค
ทรงเรียกตามบัญญัติของโลกเท่านั้น"
"ข้าแต่พระคุณเจ้า เมื่อตัวตนไม่มี
แล้วจะสอนให้ยึดถือในตัวตนเพื่ออะไรเล่า
เหมือนเมื่อเสือไม่มี
จะประโยชน์อะไร
ในการสอนให้ยิงเสือ"
"สุมนะ เรากล่าวแล้วว่า
คำว่าตัวตนนั้นเป็นคำที่พระผู้มีพระภาค
พลอยเรียกตามที่ชาวโลกเขาสมมติเรียกกัน
เพื่อให้ชาวโลกเขาฟังรู้เรื่องเข้าใจเท่านั้น
ถ้าจะถือว่าตัวตนไม่มีโดยปรมัตถ์
พระผู้มีพระภาคก็ทรงสอนให้ละ
ความยึดถือตัวตน ตามที่ชาวโลก
เขาสมมติเรียกกันนั่นเอง นอกจากนี้
พระพุทธองค์สอนว่า สิ่งใดที่เรายึดถืออยู่
ให้ละสิ่งนั้นเสีย และไม่ว่าสิ่งนั้น
ชาวโลกนั้นเขาจะเรียกกันว่าอะไรก็ตามเถิด
ทั้งนี้เพราะความยึดมั่นถือมั่น
เป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์
เป็นทางตามมาแห่งความเศร้าโศก
ให้ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
พระองค์ทรงแสดงธรรมเป็นเหมือนพ่วงแพ
ซึ่งพุทธบริษัทจะต้องละทิ้งเมื่อถึงฝั่งแล้ว
จะยึดจะติดอยู่อีกไม่ได้
ไม่จำเป็นจะต้องแบกแพขึ้นไปบนบกด้วย
พระองค์จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย
เราสอนให้ละเสียแม้ซึ่งธรรมะ
จะกล่าวไปใยถึงอธรรมเล่า"
.
“ปรัชญาทางพระพุทธศาสนา”
วรรณกรรม #แสงเทียน
อาจารย์วศิน อินทสระ
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

27 ส.ค..68 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น