ปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริง


ปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงนั้น รู้เห็นอย่างไร
ก็คือการเข้าไปรู้เห็นสภาพธรรม
มีความเปลี่ยนแปลง มีความเสื่อมสลาย
มีความแตกดับ มีสภาพที่เป็นไป
ตามเหตุตามปัจจัย เป็นอนัตตา
บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน
ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
เรียกว่า ความรู้เห็นตามความเป็นจริง
เรื่องความเป็นจริงของชีวิต
สักแต่ว่าเป็นธาตุ เป็นธรรมชาติ
มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
มีสภาพที่เป็นทุกข์ ทนอยู่ตั้งอยู่ไม่ได้
ต้องแตกต้องดับอยู่เรื่อยๆ
แล้วก็บังคับบัญชาไม่ได้
การเกิดขึ้น การดับไป
แต่ละสภาพธรรมนั้น
ไม่มีอำนาจจะไปบังคับเขาได้
เขาเกิดขึ้นเพราะมีเหตุมีปัจจัยทำให้เกิดขึ้น
และดับไปเพราะหมดเหตุปัจจัยจึงทำให้ดับไป
ฉะนั้นปัญญาที่รู้เห็นความจริง
ที่ท่านได้ดวงตาเห็นธรรม
ได้อุทานว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง
มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้น
ก็มีความดับไปโดยธรรมดา
ถามว่าการเกิดขึ้น
ทำไมจึงเป็นธรรมดา
ความดับไปทำไมจึงเป็นธรรมดา
ความไม่เที่ยงทำไมจึงไม่เที่ยง
ทำไมรูปนามต้องเกิดต้องดับด้วย
ไม่เกิดไม่ดับไม่ได้หรือ ทำไมไม่คงที่
มีแล้วต้องหมดไป
ปรากฎแล้วต้องหมดไป
นั่นก็เพราะว่ารูปนามทั้งหลาย
มีเหตุมีปัจจัยทำให้เกิดขึ้น
เขาก็ต้องเกิดขึ้น
เมื่อหมดเหตุหมดปัจจัย
เขาก็ต้องดับไป
เมื่อเหตุเกิดผลก็ต้องเกิด
เมื่อเหตุดับ ผลก็ต้องดับ
“กรอบนอก แกนใน"
พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี
ภาพ Pinterest

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น