ภัยแห่งความพอใจ


เทวดาพวกหนึ่ง
มาเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ที่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
เทวดาผู้หนึ่งได้กราบทูลว่า
“กามทั้งหลายในหมู่มนุษย์ที่เที่ยงย่อมไม่มี
ผู้ใดยังข้องอยู่ ยังประมาทอยู่ในอารมณ์
อันเป็นที่ตั้งแห่งความใคร่
ผู้นั้นย่อมไปไม่ถึงนิพพาน
อันเป็นที่ไม่ต้องเวียนเกิดเวียนตาย
ความคับแค้นเกิดจากความพอใจ
ความทุกข์เกิดจากความพอใจ
เมื่อพรากความพอใจเสียได้
ก็เป็นอันพรากความคับแค้นเสียได้
เมื่อพรากความคับแค้นได้
ก็เป็นอันพรากความทุกข์ได้
สิ่งสวยงามทั้งหลายในโลกนี้มิใช่กาม
ความกำหนัดเพราะความดำริ
ต่างหากเล่า…เป็นกามของคน
เมื่อนักปราชญ์พรากความพอใจ
ในกามนั้นเสียได้แล้ว สิ่งสวยงามทั้งหลาย
ก็คงดำรงอยู่อย่างนั้นเอง (ไม่อาจกวนใจได้)
บัณฑิตพึงละความโกรธ
พึงละมานะเสีย
พึงล่วงพ้นสังโยชน์ทั้งปวงเสีย
ทุกข์ทั้งหลายย่อมไม่ตกถึง
(หรือไม่ติดตาม) ท่านผู้เช่นนั้น
ซึ่งไม่ข้องในนามรูป ไม่มีความกังวลใดๆ
ผู้ใดละบัญญัติได้ ไม่ติดมานะ
ตัดตัณหาในนามรูปนี้ได้แล้ว
พวกเทวดาและมนุษย์
ในโลกนี้หรือในโลกอื่น
เที่ยวค้นหาอยู่ก็ไม่พบบุคคลนั้น
ผู้ตัดเครื่องผูกได้แล้ว
ไม่มีทุกข์ ไม่มีตัณหา”
พระโมฆราช
(สาวกองค์หนึ่งของพระผู้มีพระภาคเจ้า)
กล่าวว่า
“ถ้าพวกเทวดา
มนุษย์ทั้งในโลกนี้และโลกอื่น
ไม่สามารถพบพระขีณาสพเช่นนั้น
ซึ่งเป็นผู้สูงสุดในหมู่ชน
ผู้บำเพ็ญประโยชน์เพื่อปวงชน
ผู้หลุดพ้นแล้ว
เทวดาและมนุษย์ใด
ย่อมนอบน้อมแด่พระขีณาสพนั้น
เทวดาและมนุษย์นั้น
ควรได้รับการสรรเสริญโดยแท้”
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
“เทวดาและมนุษย์เหล่านั้น
ควรได้รับการสรรเสริญโดยแท้
แต่พวกเทวดาและมนุษย์เหล่านั้น
เมื่อรู้ธรรมแล้ว ละความสงสัยได้แล้ว
ก็จะล่วงพ้นธรรมเป็นเครื่องข้อง
(คือหลุดพ้น) ได้เช่นเดียวกัน”
๑๕ สามารถหลุดพ้นได้เช่นเดียวกัน*
* นสันติสูตร
(พระพุทธภาษิต : พระไตรปิฎก เล่ม ๑๕ ข้อ ๑๐๕)
อาจารย์วศิน อินทสระ
ภาพ The Bridge towards awareness

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)

15 พ.ย.68 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น