ไม่ได้สอนให้แสวงหาอะไรมาเพิ่มเติม


พระพุทธเจ้าท่านละได้ ทั้งสังขารที่เป็นบาป 
และสังขารที่เป็นบุญ 
อารมณ์ที่เป็นกุศล อารมณ์ที่เป็นอกุศล
ผู้ปฏิบัติธรรม ชอบมีความต้องการ 
ชอบมีความปราถนา 
ถึงจะต้องการปรารถนา ส่วนกุศล ส่วนเป็นคุณธรรม 
แต่ความปรารถนานั้น ก็ยังเป็นความปรารถนาอยู่
ให้ละความปรารถนานั้นเสีย 
ธรรมะของพระพุทธเจ้า ท่านให้ละให้ปล่อยวาง 
ไม่ได้สอนให้แสวงหาอะไรมาเพิ่มเติม
คำว่า "ศีล สมาธิ ปัญญา" ก็ไม่ต้องหามาเพิ่มเติม
เพียงแต่ "ละบาป ละความชั่ว" ศีลก็ปรากฏขึ้นที่จิต 
บาปอย่างหยาบ บาปอย่างกลาง 
แม้แต่บาปอย่างพรหมณ์ละเอียด ก็ให้ละ
ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหน 
เพราะใจของเรา "เป็นศีล" อยู่แล้ว 
"สมาธิ" ก็จิตนั่นแหละเป็น 
ละให้หมด อะไรที่มันคั่งค้างอยู่ในใจ 
สิ่งที่เราพอใจ สิ่งที่เราปรารถนา ละให้หมด 
สิ่งที่เราชอบใจ สิ่งที่เราไม่ชอบใจ ก็ละให้หมด

หลวงปู่แบน ธนากโร
Image by Pexels on pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น