กายกับจิต


ร่างกายเป็นธรรมชาติ 
เฉกเช่นเดียวกับ ต้นไม้ ใบไม้ 
หากไม่มีจิตรองรับ 
ร่างกายก็ไม่ต่างจากต้นไม้ตั้งแต่ต้น 
.
ร่างกายเอง มันสำคัญตัวเองไม่เป็น 
มันยึดครองตัวมันเองไม่ได้ 
แต่พอมีจิตครอง การยึดก็เกิดเมื่อนั้น 
ความเป็นตัวเป็นตนก็เกิดเมื่อนั้น 
เมื่อมีจิตเข้าไปยึดครอง
.
แต่ก่อนที่จะมีจิตยึดครอง 
ร่างกายมันก็ทุกข์กับใครไม่เป็นอยู่แล้ว 
ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก 
ใครเอาไฟมาเผาก็ไม่รู้สึก
.
ไอ้ที่รู้สึกได้ มันคือจิต 
แต่จิตเองมันก็ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ตัวตน 
มันเป็นเพียงตัวรู้ธรรมชาติ 
แต่เมื่อไม่รู้ [อวิชชาครอบงำจิต] 
มันก็เข้าใจว่า กายคือมัน 100% 
ทำให้เกิดการยึดว่า 
ร่างกายนี้แลคือตัวตนของจิต 
ทั้งที่ไม่ใช่ และความจริง
มันก็ไม่ใช่ไปตลอดกาล กายไม่ใช่จิต 
กายกับจิตคนละส่วนกัน 
อิงอาศัยกันแต่จิตก็ไม่ใช่กาย
.
เมื่อกายตาย จิตไม่ได้ตายไปด้วย 
จิตยังคงอยู่แม้ไร้ร่างก็ตาม  
แต่ภพภูมิของจิตจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่หลงยึด 
หรืออิสระเพราะไร้สิ่งที่ยึดแล้วทุกอย่าง
.
จิตเป็นอมตะ 
เพราะไม่มีตัวตนมาแต่เดิม 
จิตไม่มีความตายอย่างกาย  
แต่สภาพจิตจะรุ่งหรือร่วงก็อยู่ที่
การยึดหรือปล่อยวางอย่างรู้เท่าทัน 
เท่านั้นเอง เช่นนั้นเอง 

อิโตมิ จัง
17 ก.พ.2568

Image by Artie_Navarre from pixabay

ที่มา  เพจมนษิธาร  Monsitharn

        (บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น